ค่ำคืนหนึ่งในทองหล่อที่เราตั้งใจมาดื่มด่ำกับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เหนือกว่าความอร่อย นั่นคือการได้ “สัมผัสจิตวิญญาณของการปรุง” ผ่านมื้ออาหารที่ร้อยเรียงอย่างมีจังหวะและความหมาย ที่ Kappo Takashi ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Kappo-Kaiseki ที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 11 ของอาคาร The Residences 38 ความพิเศษอยู่ตรงที่ร้านเปิดเพียง 9 ที่นั่งเท่านั้น ทุกคนที่ได้เข้ามาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนที่ถูกออกแบบอย่างตั้งใจให้รู้สึกเหมือน “ดินเนอร์ส่วนตัว” ระหว่างแขกกับเชฟ
ผนังไม้สีอ่อน เสียงดนตรีคลอเบา ๆ และแสงไฟอุ่นนุ่มที่ทอดลงบนเคาน์เตอร์หินอ่อน ล้วนทำให้บรรยากาศอบอุ่นแต่สง่างาม ในช่วงเวลานั้น ความเร่งรีบของเมืองภายนอกดูเหมือนจะถูกกลืนหาย เหลือเพียงความนิ่งและเสียงของมีดที่ค่อย ๆ สัมผัสกับวัตถุดิบอย่างแผ่วเบา

เชฟ Takashi Sasaki ปรากฏตัวด้วยรอยยิ้มสงบและแววตาที่เปี่ยมสมาธิ ชายผู้เติบโตมาในครอบครัวของเชฟชาวญี่ปุ่นจากเมืองอิวาเตะ และยึดมั่นในปรัชญาว่า “ความเชี่ยวชาญที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ความซับซ้อน แต่อยู่ที่ความสามารถในการยกย่องและยกระดับสาระสำคัญของส่วนผสมแต่ละอย่าง”

เคาน์เตอร์สีอ่อนที่โอบล้อมครัวกลาง คือหนึ่งในหัวใจของประสบการณ์ค่ำคืนนี้ ที่เราจะได้เห็นทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์ตั้งแต่การเลือกมีด การแต่งจาน ไปจนถึงจังหวะการยื่นจานออกมาให้แขกตรงหน้า ทุกการเคลื่อนไหวของเชฟเปี่ยมด้วยความมั่นคงและจิตวิญญาณของช่างฝีมือที่เข้าใจในความงามของความเรียบง่าย
“Madai”
การเริ่มต้นของมื้อค่ำเริ่มจาก Madai (Red Sea Bream) ปลาทะเลญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี เชฟทาคาชินำมาเสิร์ฟในรูปแบบที่ทั้งเบาและสง่างาม ด้วย Yuzu Jelly เจลลี่ยูสุที่หอมซิตรัสอ่อน ๆ และ Caviar เค็มละมุนที่ช่วยเน้นความหวานธรรมชาติของเนื้อปลา ทุกอย่างถูกจัดเรียงอย่างพอดี ราวกับจังหวะของบทกวีที่เปิดม่านเรื่องราวด้วยความละเมียด

“Mitsu Maguro”
สามความแตกต่างในจานเดียว Otoro, Chutoro, Akami ความมัน ความแน่น และความนุ่มที่เรียงตามลำดับ เสิร์ฟพร้อม Egg Yolk Shoyu ที่เชฟปรุงเองอย่างละเอียด ไข่แดงถูกเคี่ยวช้า ๆ จนเนื้อข้น ให้สัมผัสนุ่มละมุนบนลิ้น เมื่อปลาทูน่าทั้งสามสัมผัสกับโชยุไข่แดงที่หอมกลิ่นคาราเมลบาง ๆ คือความกลมกล่อมที่ทั้งลึกและนิ่งอย่างญี่ปุ่นแท้

“Uni”
ความเบาและความละเมียดในรูปของ Cold Somen Noodles with Sea Urchin เส้นโซเม็งเย็นเรียวเล็กถูกลวกจนสุกพอดี วางทับด้วย Uni สดจากฮอกไกโด รสครีมมีที่ละลายในปากเหมือนคลื่นที่ซัดเบา ๆ บนชายฝั่ง เชฟบอกว่า “นี่คือรสชาติของทะเลที่ผมคิดถึง” และเราก็สัมผัสได้จริง ๆ จากความเรียบง่ายที่แฝงความซับซ้อนในจานนี้

“Amadai”
ปลากระพงแดงญี่ปุ่น (Amadai) เป็นวัตถุดิบที่ต้องอาศัยความแม่นยำในการปรุง เชฟย่างปลาทั้งเกล็ดด้วยไฟถ่านให้เกล็ดกรอบราวกับแผ่นแก้ว ส่วนเนื้อในยังคงความฉ่ำละมุน เสิร์ฟพร้อม Spinach Sauce สีเขียวเข้มที่ให้กลิ่นหอมของผักสดและถั่วญี่ปุ่นนิด ๆ ความกรอบของเกล็ดที่แตะลิ้นในคำแรก ทำให้เราเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว นี่คือความพอดีที่เกิดจากประสบการณ์หลายสิบปี

“Awabi & Hokkigai”
กลิ่นหอมของหินร้อนลอยขึ้นมาก่อนที่จานจะมาถึง — Stone-grilled Abalone and Suri Clam หรือหอยเป๋าฮื้อและหอยซึริที่เชฟย่างบนหินร้อนตรงหน้า เสียง “ฉ่าาา” คือเสียงของความตั้งใจ เนื้อหอยเหนียวหนึบแต่ไม่แข็ง มีกลิ่นทะเลอ่อน ๆ ผสานกับกลิ่นไหม้บางเบาของหินร้อน ทำให้จานนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกเหมือนยืนอยู่ริมชายฝั่งอิวาเตะในญี่ปุ่นตอนเหนือ บ้านเกิดของเชฟนั่นเอง

“Wagyu”
จากทะเลสู่ภูเขา เชฟพาเรามาสู่ Charcoal-grilled Wagyu Fillet เนื้อวากิวเกรดพรีเมียมที่ย่างบนเตาถ่านจนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ความมันในเนื้อแทรกอย่างสมดุล ความหวานของเนื้อถูกดึงขึ้นโดยความหอมบาง ๆ จากควันถ่าน

“Ise Ebi”
ซุปล็อบสเตอร์ที่ทั้งเข้มข้นและละมุนในเวลาเดียวกัน Lobster Bisque Soup ที่ใช้เปลือกล็อบสเตอร์เคี่ยวกว่า 6 ชั่วโมงจนกลิ่นทะเลกลายเป็นกลิ่นหอมหวานลึก ๆ เชฟเสิร์ฟในถ้วยเซรามิกญี่ปุ่นที่อุ่นมือ รสชาติหนักแน่นแต่กลมกล่อม เป็นจานที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้พักใจในช่วงกลางคอร์ส

“Omakase Gohan”
ข้าวหม้อดินญี่ปุ่น (Seasonal Clay Pot Rice) คือจานที่เชฟเตรียมต่อหน้าเรา เสียงข้าวเดือดเบา ๆ ในหม้อดินสร้างความอบอุ่นในหัวใจ กลิ่นหอมลอยออกมาจากส่วนผสมที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ข้าวเรียงเมล็ดสวย รสละมุนและมีความกรุบเล็กน้อย



“Sake Cheesecake”
จานปิดท้ายที่ทำให้ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ Sake Cheesecake with Sake Cream เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นสาเกอ่อน ๆ รสหวานน้อยแต่มีกลิ่นหอมฟุ้งของยีสต์และข้าวหมัก เหมือนกลิ่นของฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นก่อนดอกซากุระจะบาน

สิ่งที่ทำให้ Kappo Takashi ต่างจากร้านไคเซกิอื่นคือ ความเป็นกันเองของเชฟที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวในคืนนี้ เชฟพูดคุย ถามไถ่ แบ่งปันแรงบันดาลใจในแต่ละจาน นี่แหละคือ “Omotenashi” หรือการต้อนรับแบบญี่ปุ่นแท้ ที่ซ่อนอยู่ในทุกจังหวะของการปรุงอาหารและการยื่นจาน
Kappo Takashi – 9-Course Kaiseki
💴 ราคา: 4,500++ บาท (9 คอร์ส)
📍 ที่ตั้ง: The Residences 38, ชั้น 11, ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
🕕 เวลาเปิด: วันอังคาร – วันอาทิตย์ | 18:00 – 22:00
📩 สำรองที่นั่ง: [email protected]
📞 โทร: +66 (0)61 172 2598
📸 Instagram: @kappo_takashi