ณ จุดบรรจบระหว่างสายลมทะเล ความเงียบสงบ และความตั้งใจในการบริการ โรงแรมอะลีนตา หัวหิน – ปราณบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา (Aleenta Hua Hin – Pranburi Resort & Spa) เปิดประตูต้อนรับเราสู่ประสบการณ์พักผ่อนที่แท้จริง ด้วยบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติและความเป็นส่วนตัว รีสอร์ตขนาดกะทัดรัดซึ่งเป็นสมาชิกของ Small Luxury Hotels of the World แห่งนี้ ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล และล่าสุดยังคว้ารางวัล MICHELIN One Key ประจำปี 2024 ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่โรงแรมในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ได้รับรางวัลการันตีนี้


ความใส่ใจในทุกมิติที่กล่าวมานี้ ถือเป็นหัวใจของแนวคิด Eco-luxury ซึ่งทำให้ Aleenta Hua Hin – Pranburi โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยการผสานความหรูหราเข้ากับวิถีธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวตั้งแต่ปี 2018 การเลือกใช้วัตถุดิบจากฟาร์มออร์แกนิก ไปจนถึงการดำเนินโครงการ Pure Blue Foundation เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ องค์ประกอบเหล่านี้ล้วนเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้รีสอร์ตได้รับการยอมรับจากหลากหลายสถาบัน และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างกลมกลืน
Eco-Luxury Living “Sleep Sustainably, Dream Beautifully”
ต่อเนื่องจากแนวทางความยั่งยืนที่หลอมรวมอยู่ในทุกองค์ประกอบ ห้องพักของที่นี่ก็ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ความยั่งยืนและความสุนทรีย์อย่างแท้จริง โดยแบ่งเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ Main Hotel และ Frangipani Wing ซึ่ง SOtraveler มีโอกาสได้เข้าพักในห้อง Beachfront Pool Suite ที่ตั้งอยู่ในโซน Main Hotel อันเงียบสงบและเป็นพื้นที่ Adults Only สำหรับผู้เข้าพักที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป เพื่อรักษาบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างเหนือระดับ








สำหรับห้อง Beachfront Pool Suite ที่เราได้เข้าพักนั้น อยู่ห่างจากหาดปากน้ำปราณเพียงไม่กี่ก้าว ด้านหน้าคือทิวทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ภายในห้องมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่หันหน้าออกสู่ทะเล สามารถแช่ตัวพลางชมวิวได้อย่างเงียบสงบตลอดทั้งวัน ตกแต่งอย่างร่วมสมัยด้วยวัสดุธรรมชาติ สื่อถึงแนวคิด Eco-luxury ที่เป็นหัวใจของรีสอร์ต เน้นความโปร่ง โล่งสบาย และเปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ในทุกมุม ไฮไลต์อีกหนึ่งอย่างคือที่นี่ไม่มีโทรทัศน์ เพื่อให้ผู้เข้าพักได้หลีกหนีจากความวุ่นวายของโลกดิจิทัล และเชื่อมต่อกับธรรมชาติและตัวเองได้อย่างแท้จริง ภายในห้องยังมีพื้นที่ขนาดกว้าง เตียงนุ่มสบายพร้อมผ้าปูที่นอนคุณภาพเยี่ยม และห้องน้ำกลางแจ้งที่ให้คุณได้สัมผัสลมทะเลและความร่มรื่นของธรรมชาติระหว่างการอาบน้ำ เติมเต็มความรู้สึกของการพักผ่อนอย่างสมบูรณ์

นอกจากห้องที่เราได้เข้าพักแล้ว Aleenta ยังมีห้องพักอีกหลากหลายประเภทที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการที่หลากหลายของผู้เข้าพัก ไม่ว่าจะเป็น Ocean View Residence ที่เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการชมพระอาทิตย์ขึ้นจากระเบียงส่วนตัว หรือ Frangipani Suite ซึ่งเหมาะกับการมาพักผ่อนแบบครอบครัว ด้วยพื้นที่กว้างขวาง และมีทางลงสระว่ายน้ำได้จากหน้าห้องโดยตรง ทุกห้องล้วนถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนความตั้งใจในการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละการเข้าพัก


A Taste of Sustainability, Dining the Aleenta Way
ในเรื่องของอาหาร Aleenta ยังคงสื่อสารจิตวิญญาณของรีสอร์ตได้อย่างชัดเจน ด้วยการให้ความสำคัญทั้งในเรื่องรสชาติ สุขภาพ และความยั่งยืนอย่างแท้จริง มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่อาหารไทยแท้สูตรดั้งเดิมที่ปรุงด้วยความพิถีพิถัน ไปจนถึงอาหารยุโรปที่เน้นเทคนิคแบบฝรั่งเศส และเมนู Wellness ซึ่งใช้วัตถุดิบออร์แกนิกและพืชผักสดจากฟาร์มของรีสอร์ตเอง เสริมด้วยการจัดจานที่เรียบง่ายแต่งดงาม กลมกลืนกับธรรมชาติทั้งในรสชาติและการนำเสนอ


มื้อเช้าของที่นี่ก็ยังคงสะท้อนแนวคิดแห่งการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะ In-room Floating Breakfast ที่เสิร์ฟบนถาดลอยน้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัวของห้อง Beachfront Pool Suite ท่ามกลางเสียงคลื่นเบา ๆ แสงเช้าที่อบอุ่น และวิวทะเลที่อยู่ตรงหน้า เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ทั้งสดชื่น ผ่อนคลาย และเปี่ยมไปด้วยความรื่นรมย์

เมื่อพูดถึงมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำที่ Aleenta ความประทับใจยังคงดำเนินต่อด้วยอาหารยุโรปที่โดดเด่นด้วยเทคนิคฝรั่งเศส ผสานเข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นสดใหม่ได้อย่างมีชั้นเชิง Hua Hin Seafood Soup ซุปซีฟู้ดที่รังสรรค์จากวัตถุดิบทะเลสดใหม่ของวัน หอมกลิ่นกระเทียมและไวน์ขาว รสชาติเข้มข้นและอร่อยเกินความคาดหมาย เสิร์ฟพร้อมขนมปังกระเทียมกรอบ

Australian Grain Fed Rib Eye Steak ริบอายเกรนเฟดชิ้นโต ย่างฉ่ำสุกกำลังดี


และ Coconut Crème Brûlée ของหวานเนื้อนุ่มที่เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวทั้งลูก เติมกลิ่นอายแบบทรอปิคอลอย่างน่ารักและน่าประทับใจ ทุกจานสะท้อนถึงความใส่ใจทั้งในรสชาติและการคัดสรรวัตถุดิบที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ
ในขณะที่อาหารไทยก็ยังคงรสชาติแบบต้นตำรับแท้ แต่เสริมด้วยการนำเสนอที่ร่วมสมัยไม่ซ้ำใคร Muek Khai Yaang ไข่ปลาหมึกย่างเสียบไม้ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ

Gaeng Poo Bai Cha Plu แกงเหลืองเข้มข้นใส่เนื้อปูแน่น ๆ และใบชะพลู เสิร์ฟคู่กับเส้นหมี่ขาวนุ่มลื่น

และปิดท้ายด้วย Homemade Traditional Coconut Ice Cream ไอศกรีมกะทิสูตรโบราณผสมลอดช่องและขนุน ราดด้วยกะทิ โรยถั่วลิสง หอม มัน เย็นชื่นใจอย่างไทยแท้

การได้ลิ้มรสเมนูที่ใช้วัตถุดิบจากต้นทางอย่างแท้จริง ยิ่งน่าประทับใจเมื่อเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมฟาร์มออร์แกนิกของ Aleenta ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวรีสอร์ต ภายในมีทั้งแปลงผักปลอดสาร เล้าไก่ที่ให้ไข่สดทุกเช้า และพื้นที่เพาะปลูกแบบหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


นอกจากเมนูทั่วไปแล้ว ที่นี่ยังมีเมนู Wellness ที่เน้นสุขภาพอย่างแท้จริง โดยใช้วัตถุดิบจากฟาร์มแห่งนี้เป็นหลัก เพื่อให้ผู้เข้าพักได้รับทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการอย่างยั่งยืน เป็นหลักฐานชัดเจนที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของ Aleenta ในการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงจานอาหารที่เสิร์ฟ
Mindful Indulgence, Reconnect Body and Soul at Ayurah Spa
Ayurah Spa & Wellness Centre คืออีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่เติมเต็มจิตวิญญาณแห่งความยั่งยืนของ Aleenta ได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยการบำบัดที่ผสมผสานศาสตร์แผนไทยเข้ากับวิธีแบบตะวันตกอย่างกลมกลืน ห้องนวดแบบเปิดโล่งให้บรรยากาศสงบและผ่อนคลาย โดยเบื้องหน้าคือทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ทำให้เราได้ยินเสียงคลื่นแผ่วเบากล่อมใจตลอดระหว่างการนวด การนวดที่นี่ทำได้ดีเยี่ยม น้ำหนักมือพอดีจนทำให้เคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว เป็นประสบการณ์ที่ช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ เรายังได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้วิธีการทำลูกประคบสมุนไพรด้วยตนเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สนุกและให้ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาแผนไทย รวมถึงการฝึกโยคะริมทะเลในยามเช้า ท่ามกลางสายลมเย็น ๆ และเสียงคลื่นที่ช่วยสร้างสมาธิและความสงบได้เป็นอย่างดี
Enriching Experiences, Activities that Deepen Your Stay
เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเข้าพัก กิจกรรมใส่บาตรคืออีกหนึ่งความประทับใจที่ไม่ควรพลาด พระจะเดินผ่านหน้าชายหาดในช่วงเช้า และทางโรงแรมจะจัดเตรียมชุดใส่บาตรไว้ให้แขกพร้อมสรรพ เพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างอิ่มบุญและสงบใจโดยไม่ต้องเตรียมของมาเอง นอกจากนี้ หากชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ก็สามารถเลือกปั่นจักรยานเลียบชายหาดไปตามเส้นทางที่จัดไว้อย่างปลอดภัย ชมวิวทะเล สูดอากาศบริสุทธิ์ และซึมซับบรรยากาศของชุมชนริมทะเลไปพร้อมกัน


นอกเหนือจากกิจกรรมภายในรีสอร์ต Aleenta ยังเชิญชวนให้ผู้เข้าพักได้ออกไปสัมผัสกับกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งช่วยขยายมุมมองของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมธนาคารปูบ้านปากน้ำปราณที่มีบทบาทในการฟื้นฟูปูม้าคืนสู่ธรรมชาติ หรือการเดินชมศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ที่ Aleenta ให้การสนับสนุนผ่านโครงการ Pure Blue Foundation ภายใต้แนวคิด “Small Acts, Big Impact.” รวมถึงการล่องเรือชมธรรมชาติในคลองเขาแดงภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ที่จะพาคุณเข้าใกล้ธรรมชาติในมุมที่แสนสงบและเรียบง่าย

และเมื่อบทสุดท้ายของการเข้าพักมาถึง เราจึงเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่า โรงแรมอะลีนตา หัวหิน – ปราณบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา (Aleenta Hua Hin – Pranburi Resort & Spa) คือการหลีกหนีจากความวุ่นวาย และหันกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีสติ ด้วยการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ การบริการที่อบอุ่น และแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้หลอมรวมกันเป็นประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายและยากจะลืมเลือน
Aleenta Hua Hin – Pranburi Resort & Spa
ที่อยู่: 183 หมู่ 4 ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77220
การจองห้องพัก:
- Email: [email protected]
- โทรศัพท์: 032-618-333
Social Media:
- Facebook: aleentahuahin
- Instagram: @aleentahuahin
- Website: https://www.aleenta.com/huahin