หลีกหนีความวุ่นวาย สู่การพักผ่อนเหนือระดับที่ Courtyard by Marriott Bangkok Suvarnabhumi Airport ที่ใหม่และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพียง 10 นาทีจากสนามบินสุวรรณภูมิ

เพียงไม่กี่นาทีจากสนามบินสุวรรณภูมิ แต่กลับให้ความรู้สึกราวกับได้หลบหนีจากความวุ่นวายเข้าสู่โลกอีกใบ โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต (Courtyard by Marriott Bangkok Suvarnabhumi Airport) ตั้งอยู่ริมคลองประเวศบุรีรมย์ในย่านลาดกระบัง ท่ามกลางโลเคชั่นที่เงียบสงบและเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ซึ่งหาได้ยากในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่นี่มอบบรรยากาศผ่อนคลายและมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง พร้อมมาตรฐานการบริการระดับโลกจาก Marriott ที่คอยดูแลทุกรายละเอียดของการเข้าพักให้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ

เมื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่ของโรงแรม กลิ่นอายของวิถีชีวิตไทยริมคลองและบรรยากาศอันเงียบสงบจะค่อย ๆ โอบล้อมราวกับได้หลุดเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง การออกแบบภายนอกและภายในของโรงแรมได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตชาวคลองอย่างลึกซึ้ง อาทิ โครงสร้าง “ย่อจับปลา” ที่ตั้งตระหง่านหน้าโรงแรม สื่อถึงการดำรงชีพของชุมชนริมน้ำในอดีต ผนวกกับโทนสีและวัสดุของตัวอาคารที่เลือกใช้ไม้ เหล็ก และสีเอิร์ธโทน เพื่อสะท้อนภาพบ้านไม้ริมคลองในแบบร่วมสมัย

โถงล็อบบี้โดดเด่นด้วยเสาโค้งที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกบัวและผักตบชวา ผสานวัสดุหวายจักสานและลวดลายใบไม้จากฝีมือช่างไทย ช่วยเติมกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นอย่างร่วมสมัย ส่วนบันไดหินอ่อนวนสีขาวก็ถูกออกแบบให้หมุนคล้ายวังน้ำวน ล้อมรอบด้วยสายน้ำและแสงธรรมชาติราวกับกำลังเดินผ่านชุมชนริมคลอง ภาพทั้งหมดยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อมองออกไปยังคลองประเวศบุรีรมย์ ที่ยังคงมีชาวบ้านพายเรือ หาปลา และเด็ก ๆ เล่นน้ำอย่างมีชีวิตชีวา

แม้จะตั้งอยู่ภายในเขตกรุงเทพฯ แต่โรงแรมกลับมอบบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติราวกับรีสอร์ทในต่างจังหวัด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการช่วงเวลาผ่อนคลายก่อนหรือหลังการเดินทาง ด้วยทำเลที่ตั้งเพียง 10 นาทีจากสนามบินสุวรรณภูมิ และยังใกล้กับเส้นทางมอเตอร์เวย์ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างราบรื่น สะดวกสบายทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางเพื่อธุรกิจ

โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต (Courtyard by Marriott Bangkok Suvarnabhumi Airport) โดดเด่นในฐานะโรงแรมในเครือ Marriott ที่ใหม่และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยจำนวนห้องพักกว่า 468 ห้อง ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้เข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางเพื่อธุรกิจหรือนักท่องเที่ยวที่มองหาช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันให้กลมกลืนไปกับภูมิทัศน์สีเขียวโดยรอบ เพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายให้กับการเข้าพักในทุกช่วงเวลา

โรงแรมแห่งนี้นำเสนอห้องพักหลากหลายประเภทให้เลือกสรร ทั้งห้อง Deluxe, Premier, Executive ไปจนถึงห้องสวีท สำหรับผู้ที่ต้องการความกว้างขวางและความสะดวกสบายในระดับสูง โดยทุกรูปแบบห้องพักได้รับการออกแบบในสไตล์ร่วมสมัยที่หรูหรา ผสานความอบอุ่นแบบไทย ๆ ไว้อย่างลงตัว สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่รื่นรมย์อย่างแท้จริง อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือบริการ 24 Hours Flexi Stay หรือห้องพัก 24 ชั่วโมงเต็ม ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักสามารถเช็กอินเวลาใดก็ได้ และเช็กเอาต์ในเวลาเดียวกันของวันถัดไป มอบความยืดหยุ่นสูงสุดสำหรับทุกแผนการเดินทาง

โดยครั้งนี้ SOtraveler ได้มีโอกาสเข้าพักในห้อง Deluxe Garden Access ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเภทห้องพักที่โดดเด่นที่สุดของโรงแรม ห้องพักจำนวนจำกัดนี้ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่าง มาพร้อมสวนส่วนตัวและทางเดินที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสระว่ายน้ำกลางแจ้ง เพียงไม่กี่ก้าวจากประตูห้องก็สามารถสัมผัสความสดชื่นของสายน้ำได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนตัวและผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง ภายในห้องตกแต่งอย่างประณีตในสไตล์เรียบหรูร่วมสมัย โดยไม่ละทิ้งกลิ่นอายความเป็นไทย ผ่านองค์ประกอบของลวดลาย การเลือกใช้วัสดุ และโทนสีที่อบอุ่น เสริมสร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา

รายละเอียดภายในห้องพักยังสะท้อนถึงแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตไทยอย่างลึกซึ้ง ทั้งกระเบื้องลายสานที่เลียนแบบลวดลายงานจักสานพื้นบ้าน โคมไฟหัวเตียงที่ได้แรงบันดาลใจจากโคมแขวนในเรือนไทยโบราณ และวอลเปเปอร์ลายดอกผักตบชวาหรือดอกบัวที่ปรากฏตามผนังห้องซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทของห้องพัก นอกจากนี้ ห้องน้ำยังออกแบบโดยอิงจากโอ่งและขันน้ำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตไทยในอดีต ทั้งในด้านความสะอาดและความสดชื่น เพิ่มเสน่ห์ความละเมียดละไมให้กับทุกช่วงเวลาของการพักผ่อน

ช่วงค่ำเราเลือกลิ้มลองมื้อพิเศษที่ Big Bite Burger Bar & Grill ห้องอาหารอเมริกันสไตล์เรโทรที่สะดุดตาด้วยพื้นลายตาราง ป้ายนีออน และม้านั่งเบาะหนังสีแดงสด ให้อารมณ์ยุค 90s สุดคลาสสิก เมนูเด่นที่ได้ลิ้มลองคือ The Sea Side Fish เบอร์เกอร์ปลาดอรี่ทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสทาร์ทาร์โฮมเมด และ Chimichurri ไส้กรอกเนื้อย่างราดซอสสมุนไพรสไตล์อาร์เจนตินา ท็อปด้วยเบคอน หอมเจียว และพริกดอง

อีกจานที่สร้างความประทับใจไม่แพ้กันคือ Pan Fried Crab Cake ที่นำเนื้อปูสดแน่นเต็มคำมาปรุงอย่างพิถีพิถัน ทอดจนผิวด้านนอกกรอบหอม ในขณะที่ด้านในยังคงความนุ่มฉ่ำ เสิร์ฟเคียงกับซอสสไปซี่เลมอนที่มีรสเปรี้ยวเผ็ดนิด ๆ ช่วยตัดเลี่ยนได้อย่างพอดี ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย Orange & Almond Salad สลัดที่ผสมผสานความสดชื่นของส้มกับกลิ่นหอมของอัลมอนด์คั่วกรอบ เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบให้ทุกคำอย่างลงตัว ทุกเมนูถูกจัดวางอย่างมีสไตล์ เสริมเสน่ห์ให้ค่ำคืนนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเมื่อจับคู่กับเครื่องดื่มซิกเนเจอร์อย่าง PB Bliss ที่ผสานกลิ่นหอมของวานิลลาและรสนุ่มของเนยถั่ว หรือ Kentucky Retro ค็อกเทลเบอร์เบินสไตล์คลาสสิกที่มอบความละมุนและกลิ่นอายย้อนยุคให้กับทุกช่วงเวลาของมื้อค่ำ

ค่ำคืนยังไม่จบลงเพียงเท่านั้น เราปิดท้ายด้วยบรรยากาศแสนอบอุ่นที่ The Lobby Deli บาร์เล็ก ๆ แต่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์แห่งค่ำคืน ที่นี่มีค็อกเทลสูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อดึงเสน่ห์ของวัตถุดิบออกมาได้อย่างน่าสนใจ เริ่มจาก Winter Glow ค็อกเทลสีพีชที่ผสานกลิ่นหอมของจินและ Lillet เข้ากับรสละมุนของลิ้นจี่และมะพร้าว ให้ความรู้สึกหอมหวานนุ่มนวลในแบบทรอปิคอล ในขณะที่ Scarlet Frost โดดเด่นด้วยสีแดงเข้มของราสป์เบอร์รี่ ผสานความเปรี้ยวสดชื่นจากน้ำมะนาวและความหอมของโฟมกุหลาบที่ลอยอยู่ด้านบน มอบประสบการณ์ทั้งทางรสชาติและสายตา เสริมด้วยเสียงดนตรีสดในทุกคืนวันพุธถึงวันเสาร์ ที่ขับกล่อมผู้มาเยือนด้วยท่วงทำนองละมุนละไม กลายเป็นบทสรุปของค่ำคืนที่ทั้งอิ่มใจและผ่อนคลายอย่างแท้จริง

เช้าวันถัดมา เราเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่นที่ห้องอาหาร Chon Som กับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่หลากหลายและครบครัน ตั้งแต่อาหารไทยรสจัดจ้านอย่างข้าวต้มกับเครื่องเคียงแบบโฮมเมด ไปจนถึงอาหารตะวันตกอย่างไข่คน เบคอน และไส้กรอก พร้อมมุมขนมปังอบสดใหม่และกาแฟหอมกรุ่นหลากหลายชนิด เสริมบรรยากาศด้วยการตกแต่งที่แฝงกลิ่นอายวิถีชีวิตชาวคลอง ทั้งลวดลายผ้าพื้นบ้านและการจัดวางสมุนไพรแบบบ้าน ๆ ที่ช่วยเติมความอบอุ่นและเป็นกันเองให้กับช่วงเวลาอาหารเช้า

สำหรับผู้ที่มองหากิจกรรมระหว่างวัน โรงแรมแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพและการผ่อนคลาย เริ่มจาก Fitness Center ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมคลาสออกกำลังกายหมุนเวียนในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นโยคะ พิลาทิส หรือคลาสคาร์ดิโอแบบเข้มข้น สำหรับผู้ที่ต้องการการพักผ่อนอย่างล้ำลึก นอกจากนี้ยังมีบริการสปาสุดหรูจาก Let’s Relax ที่พร้อมมอบประสบการณ์แห่งการผ่อนคลายด้วยทรีตเมนต์คุณภาพ และเพื่อความสะดวกสูงสุดสำหรับนักเดินทาง ยังมีจุดบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศภายในโรงแรมอีกด้วย

โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต (Courtyard by Marriott Bangkok Suvarnabhumi Airport) จึงไม่ใช่เพียงที่พักใกล้สนามบิน แต่คือจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง ที่ซึ่งธรรมชาติ วิถีชีวิตไทย และความร่วมสมัยของการบริการระดับโลกหลอมรวมกันอย่างงดงาม ทุกช่วงเวลาแห่งการเข้าพักเปี่ยมไปด้วยความเงียบสงบ อบอุ่น และใส่ใจในรายละเอียด ทั้งในแง่ของการออกแบบ พื้นที่สีเขียว อาหาร เครื่องดื่ม และประสบการณ์โดยรวมที่มอบความรู้สึกอิ่มเอมใจ ไม่ว่าจะเป็นการแวะพักระหว่างการเดินทาง หรือมองหาเวลาพักผ่อนระยะยาว ที่นี่ก็พร้อมต้อนรับด้วยความประทับใจไม่รู้ลืม

Courtyard by Marriott Bangkok Suvarnabhumi Airport

• Location: 599/9 ถนนลาดกระบัง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
• Reservations: 02-780-3588
• Facebook: CourtyardBangkokSuvarnabhumiAirport
• Instagram: @courtyardsuvarnabhumiairport
• Website: www.courtyardbangkoksuvarnabhumiairport.com