การเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังมาเก๊าในครั้งนี้มีจุดหมายที่ชัดเจน นั่นคือการมาเยือน Grand Lisboa Palace Macau รีสอร์ตที่เปิดตัวในย่านโคไทด้วยแนวคิด “the grand union of the best from East and West” ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานวัฒนธรรมข้ามทวีปและมรดกทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในฐานะ SOtraveler ที่มีโอกาสได้สัมผัสกับโรงแรมหรูหราในหลายที่ เรารู้สึกว่า Grand Lisboa Palace Resort Macau มีบางสิ่งพิเศษที่แตกต่างจากที่อื่น ซึ่งเราจะชวนทุกคนมาติดตามกันต่อในบทความนี้
Arrival & Grand First Impressions
เมื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่ของโรงแรม สิ่งแรกที่เราสังเกตเห็นคือสถาปัตยกรรมอันงดงามที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจีนและโปรตุเกสได้อย่างลงตัว อาคารสูงตระหง่านด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์นีโอคลาสสิกและเบลล์เอป็อก ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์จีนอย่างมังกร ฟีนิกซ์ และดอกบัวอย่างประณีต
พอเดินเข้าไปในล็อบบี้ เราต้องหยุดชื่นชมเพดานสูงโปร่งและรายละเอียดการตกแต่งที่สะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมโปรตุเกส-จีนอันเป็นเอกลักษณ์ของมาเก๊า งานศิลปะที่ประดับตลอดล็อบบี้ล้วนเป็นผลงานที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะภาพเขียนขนาดใหญ่ซึ่งเล่าเรื่องราวการค้าขายทางทะเลระหว่างตะวันออกและตะวันตกในยุคสมัยก่อน ด้วยสีสันที่อุดมไปด้วยโทนสีน้ำเงินคราม ทอง ซึ่งสะท้อนถึงความรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหม เพิ่มความตื่นเต้นให้กับการสำรวจรีสอร์ตแห่งนี้ตั้งแต่สัมผัสแรก


Seamless Journey to Paradise
การเดินทางมายัง Grand Lisboa Palace Resort Macau นั้นง่ายดายและสะดวกสบายมาก จากสนามบินนานาชาติมาเก๊า ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์เพียงสิบนาทีเท่านั้น ทางรีสอร์ตยังมี Shuttle Bus ให้บริการฟรีครอบคลุมสถานที่สำคัญทั่วมาเก๊าอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นจุดผ่านแดน Gongbei Border Gate, Hengqin Border Gate, Hong Kong-Zhuhai-Macao Bridge Macau Port, ท่าเรือเฟอร์รี่ Macau Ferry Terminal และ Taipa Ferry Terminal, สนามบิน Macau International Airport รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Senado Square
รถ Shuttle Bus เดินทางทุก 20-30 นาที ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 23.00 น. ทุกวัน เป็นรถปรับอากาศที่สะอาดมาก พร้อมป้ายบอกจุดหมายทั้งภาษาจีน อังกฤษ และโปรตุเกส ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเดินทางได้อย่างมั่นใจ หากต้องการความสะดวกสบายเพิ่มเติม
The Art of Luxurious Living: Suite Experience
ครั้งนี้เราได้พักในห้องจูเนียร์สวีท ที่แบ่งพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้สามารถพักผ่อนและใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

จุดเด่นที่ทำให้ห้องสวีทแห่งนี้พิเศษคือการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด แต่ละห้องได้รับการตกแต่งด้วยสีสันที่สดใสและงานศิลปะที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของมาเก๊าอย่างลงตัว การออกแบบภายในผสมผสานความเป็นตะวันออกและตะวันตกได้อย่างประณีต ทั้งงานศิลปะสมัยใหม่บนผนังและระบบแสงไฟที่ออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศอันเงียบสงบ นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานแล้ว ยังมีเครื่องชงกาแฟ กาต้มน้ำ รวมถึงมินิบาร์ที่จัดเตรียมเครื่องดื่มหลากหลายชนิด บริการในห้องพักอีกด้วย

ห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าประทับใจ ออกแบบมาอย่างหรูหราด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัวแบบวอล์กอินที่แยกจากกัน มีห้องน้ำส่วนตัว พื้นที่แต่งตัวที่กว้างขวาง และอ่างล้างหน้าคู่ การจัดวางที่พิถีพิถันนี้ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสปาส่วนตัว มากกว่าห้องน้ำในรีสอร์ตทั่วไป

Jardim Secreto: A Secret Garden Paradise
หนึ่งในจุดเด่นของรีสอร์ตแห่งนี้คือ Jardim Secreto (สวนลับ) บนชั้น 3 สวนลับแห่งนี้กว้างขวาง ในช่วงที่เราไปเยือน สวนได้รับการตกแต่งพิเศษในธีม Alice in Wonderland ที่น่าหลงใหล มีการจัดแสดงตัวละครและองค์ประกอบต่างๆ จากเรื่องราวคลาสสิกเรื่องนี้อย่างสร้างสรรค์ ทำให้บรรยากาศในสวนดูมีเสน่ห์และน่าค้นหามากยิ่งขึ้นสวนได้รับการออกแบบในแนวยุโรปคลาสสิก มีลานหญ้าที่ตัดแต่งอย่างพิถีพิถัน ใจกลางสวนมีโดมอันงดงามที่ส่องแสงอันแสนมหัศจรรย์หลังพระอาทิตย์ตกดิน บริเวณรอบๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจี และมีเขาวงกตหญ้าที่ออกแบบในสไตล์บาโรกอันหรูหรา


Aquatic Elegance & Pool Perfection
สระว่ายน้ำเป็นจุดเด่นสำคัญที่แสดงถึงความใส่ใจในการดูแลสุขภาพและการพักผ่อน ที่นี่มีสระในร่ม ได้รับการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์มาคานีสและบาโรกที่งดงาม ผสมผสานเอกลักษณ์ตะวันออกและตะวันตกได้อย่างประณีต และที่สำคัญสระว่ายน้ำเป็นแบบควบคุมอุณหภูมิ ถูกใจเราอย่างที่สุด ว่ายน้ำตั้งแต่เช้าก็สดชื่นดี ทำให้เป็นพื้นที่พักผ่อนที่เหมาะสำหรับทุกฤดูกาล สิ่งที่ทำให้ประสบการณ์นี้พิเศษยิ่งขึ้นคือวิวที่มองออกไปยัง Jardim Secreto ที่งดงามเหมือนสวนยุโรป สร้างการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่น้ำและธรรมชาติอย่างไร้รอยต่อ


Forbes Five-Star Spa Excellence
สปาที่ Grand Lisboa Palace Macau ได้รับการยกย่องจาก Forbes Travel Guide ให้เป็นสปาระดับห้าดาว ถือเป็นหนึ่งในสปามาตรฐานระดับสูงในมาเก๊า ตั้งอยู่บนชั้นสามของรีสอร์ต ภายในมีห้องทรีตเมนต์ส่วนตัว การออกแบบภายในสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของมาเก๊าผ่านการผสมผสานสถาปัตยกรรมบาโรกเข้ากับศิลปะท้องถิ่น ตั้งแต่งานศิลปะดอกไม้ที่ประณีต พื้นไม้ฝังลวดลายสวยงาม เครื่องเคลือบจีนโบราณ ไปจนถึงแผงสีน้ำเงินและสีขาวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกระเบื้องอะซูเลโฮแบบโปรตุเกส

ทรีตเมนต์ที่เราได้ลองและประทับใจมากคือ Healing Sound Therapy การบำบัดด้วยเสียงที่ใช้เสียงช่วยให้จิตใจสงบและร่างกายผ่อนคลาย ร่วมกับการนวดตามจุดที่ต้องการบำบัดเฉพาะส่วน นักบำบัดที่มีประสบการณ์จะกดจุดลงบนกล้ามเนื้ออย่างแม่นยำ ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าจากการเดินทางและเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย
สำหรับนักเดินทางที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายหลังเที่ยวบินยาวหรือการเดินเที่ยวเต็มวัน การมาผ่อนคลายที่สปาแห่งนี้จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การพักผ่อนให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

A Retail Paradise
การช้อปปิ้งที่ Grand Lisboa Palace Resort Macau เป็นประสบการณ์ที่สนุกและครบครันมาก ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่กว้างขวาง สร้างบรรยากาศการช้อปปิ้งที่ทันสมัย ภายในประกอบด้วยร้านค้าสำคัญสองแห่ง ได้แก่ cdf Macau Grand Lisboa Palace Shop เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ความงามระดับพรีเมียม นาฬิกาและเครื่องประดับจากแบรนด์ดัง


และ NY8 New Yaohan ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์หลากหลาย เสื้อผ้าแฟชั่น และสินค้าจำเป็นประจำวันครบครัน

ที่นี่การช้อปปิ้งกลายเป็นกิจกรรมที่น่าเพลิดเพลิน ไม่เพียงแค่การซื้อของ แต่ยังเป็นการเดินเล่นและสำรวจในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
Culinary Artistry & Gastronomic Excellence
Grand Lisboa Palace Resort Macau ยังเป็นสวรรค์แห่งการรับประทานอาหารที่รวบรวมประสบการณ์ทางรสชาติระดับโลกไว้ในที่เดียว จากการสำรวจครั้งนี้ เราได้ค้นพบว่าทุกมื้ออาหารที่นี่คือการเปิดประตูสู่โลกแห่งความอร่อยที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของมาเก๊า ซึ่งเป็นจุดบรรจบระหว่างอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก ตั้งแต่อาหารเช้าบุฟเฟต์ไปจนถึงร้านอาหารมิชลินสตาร์ที่เน้นความแท้จริงและประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส
เริ่มต้นวันใหม่ด้วย The Grand Buffet มื้อเช้าแห่งความหลากหลาย ห้องอาหารขนาดใหญ่ ตกแต่งอย่างงดงามมองเห็นสวนเขียวขจีของรีสอร์ตผ่านกระจกใสขนาดใหญ่ สร้างบรรยากาศการรับประทานอาหารที่ผ่อนคลายและสดชื่น บุฟเฟต์ที่นี่ไม่เพียงแค่หลากหลาย แต่ยังเป็นการผสมผสานศิลปะการทำอาหารจากทั่วโลกอย่างลงตัว ด้วยสถานีอาหารที่หลากหลายครอบคลุมทุกรสนิยม ตัวอย่างเช่น สถานีอาหารจีนต้นตำรับ มีโจ๊กและข้าวต้มที่ปรุงสดใหม่ทุกเช้าพร้อมท็อปปิ้งหลากหลาย ติ่มซำที่ห่อด้วยมือ ตั้งแต่ฮะเก้า ซาลาเปาหมูแดง และบะหมี่แห้งฮ่องกงสไตล์ที่เสิร์ฟร้อนๆสถานีอาหารตะวันตก มีไข่ดาวและไข่คน ที่ทำสดใหม่ เบคอนและไส้กรอกคุณภาพพรีเมียม มุมเบเกอรี่และขนมหวาน ที่อบสดใหม่ทุกวัน มีครัวซองต์เนยสด มัฟฟิน เดนิช เค้กหลากรส และทาร์ตไข่




สำหรับร้านอาหารซิกเนเจอร์สไตล์แคนโทนิส Palace Garden ร้านอาหารหลักของรีสอร์ตแห่งนี้จำลองความงดงามของสวนในวังหลวง เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องอาหารหลัก ผู้มาเยือนจะต้องหลงใหลกับผลงานปักผ้าไหมซูโจวต้นตำรับที่ยาวถึง 35 เมตร เป็นภาพดอกเบญจมาศอันงดงาม พร้อมด้วยพัดปักสองหน้าที่สั่งทำพิเศษ การแสดงออกทางศิลปะที่ผสานสีสัน วัฒนธรรม และงานฝีมืออันประณีตนี้ยังขยายไปสู่ห้องอาหารส่วนตัว ที่แต่ละห้องมีธีมเป็นเอกลักษณ์



ท่ามกลางบรรยากาศอันหรูหราและสง่างาม ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับอาหารกวางตุ้งต้นตำรับระดับพรีเมียมที่เชฟหัวหน้าคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงสุดมาปรุงด้วยเทคนิคการทำอาหารอันเชี่ยวชาญ อย่างเมนูที่เราได้ชิมวันนี้ประกอบไปด้วย Alaska King Crabmeat with Mint and Spring Onion Tart โดดเด่นด้วยเนื้อปูอลาสก้าหวานหอม Roasted Goose served with Kristal Caviar ห่านย่างที่หนังกรอบเนื้อนุ่มจากเทคนิคโบราณ Barbecued Iberico Pork Loin smoked with Lychee Wood เนื้อหมูอิเบริโกนุ่มละมุนที่รมควันด้วยไม้ลิ้นจี่ ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติที่จดจำได้ยาวนาน Peony King Tiger Prawn กุ้งลายเสือขนาดใหญ่ที่จัดเรียงอย่างงดงามเหมือนดอกโบตั๋น เนื้อกุ้งสดหวานเด้งฟู ปรุงรสเบาๆ เพื่อให้ความหวานธรรมชาติของกุ้งเด่นชัด Premium Partridge Bisque ซุปนกกระทาเข้มข้นที่เคี่ยวนานหลายชั่วโมง มีรสชาติกลมกล่อม Crispy Baby Pigeon with Lemongrass Scent นกพิราบอายุ 16 วันจากเขตซื่อฉี เมืองจงซาน ที่หนังกรอบเนื้อนุ่ม หอมตะไคร้ให้ความสดชื่นและลดความมันของเนื้อนก Seasonal Vegetables poached with Fresh Lily Bulb and Wolfberry in Supreme Broth ผักตามฤดูกาลต้มกับหัวลิลลี่สดและผลโกจิในน้ำซุปใส รสชาติหวานละมุนจากธรรมชาติ Seafood Fried Rice with Sakura Shrimp ข้าวผัดซีฟู้ดที่ใช้ข้าวผัดไฟแรงให้เม็ดข้าวแยกเม็ด หอมกลิ่นซากุระแห้ง กุ้งแห้ง และปิดท้ายด้วย Sweetened Mango and Passion Fruit Cream with Homemade Ginger Ice Cream ครีมมะม่วงหวานผสมเสาวรสเปรี้ยวหวาน เสิร์ฟคู่ไอศกรีมขิงทำเองที่ให้ความเผ็ดร้อนอ่อนๆ ตัดรสหวานได้อย่างลงตัว

La Scala del Palazzo ยกระดับประสบการณ์ afternoon tea ให้กลายเป็นศิลปะแห่งการรับประทานอาหาร ด้วยบรรยากาศที่หรูหราสไตล์อิตาเลียนคลาสสิก และเมนูที่สร้างสรรค์ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ร้านอาหารแห่งนี้นำเสนอ afternoon tea set ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นอิตาเลียนดั้งเดิมกับการนำเสนอสมัยใหม่ สร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำ โดยเมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ตัวอย่างเมนูที่เราได้ลิ้มลองมาได้แก่
การเริ่มต้นด้วย Amuse-Bouche: Abalone and Cream of Pumpkin เป็นการเปิดตัวที่น่าประทับใจ เนื้อเป๋าฮื้อที่เคี้ยวหนึบหวานธรรมชาติ ผสมครีมฟักทองที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุนและรสชาติซับซ้อนแต่กลมกล่อม ในส่วนของ Savory Foie Gras and Pomegranate Mousse คือการผสมผสานที่น่าทึ่งระหว่างความเข้มข้นของฟัวกราส์คุณภาพสูงกับความสดชื่นของทับทิมสีแดงฉ่ำ มูสที่นุ่มละมุนละลายในปาก Smoked Salmon, Mascarpone and Cucumber Sandwich นำเสนอแซลมอนรมควันละมุนผสมมาสคาร์โปเนนุ่มครีมี เสิร์ฟกับแตงกวาสดกรอบให้ความสดชื่น Crab and Avocado Toast เนื้อปูสดหวานบนโทสต์กรอบ ท็อปด้วยอะโวคาโดนุ่มครีมที่เพิ่มความมัน Arancino with Obsiblue Prawn and Beetroot อรันชินี่ทอดกรอบนอกนุ่มใน ใส่กุ้งโอปซิบลูและบีทรูทให้สีสันสวยงาม และ Lobster and Caviar Tartlette จุดสุดยอดของความหรูหรา เนื้อล็อบสเตอร์สดใหม่หวานหอมธรรมชาติ โรยด้วยคาเวียร์เกล็ดดำเป็นประกาย เสิร์ฟในทาร์ตเล็ตกรอบๆ ส่วนขนมหวานเริ่มจาก Traditional La Scala Tiramisu ทีรามิสูดั้งเดิมที่นุ่มละมุน Araguani Chocolate Tart ทาร์ตช็อกโกแลตเข้มข้นจากโกโก้อารากัวนี่คุณภาพสูง Daisy Yuzu ขนมหวานรูปดอกเดซี่รสยูซุเปรี้ยวหวาน Pistachio Dacquoise with Pistachio Cream and Strawberry ดาควัวส์พิสตาชิโอนุ่มๆ เสิร์ฟกับครีมพิสตาชิโอและสตรอว์เบอร์รี่สด และ The Rose ขนมหวานรูปกุหลาบที่สวยงาม ปิดท้ายด้วย Sgroppino ที่เสิร์ฟด้วยรถเข็นคันเล็กๆ มาปรุงเสิร์ฟที่โต๊ะ ด้วยไอศกรีมเฮเซลนัทที่มีเนื้อสัมผัสครีมมีและรสชาติเข้มข้น ทุกชิ้นคือการเฉลิมฉลองความงดงามของวัตถุดิบระดับพรีเมียมและฝีมือการทำขนมอิตาเลียนแท้

Vivienne Westwood Café นำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยการผสมผสานระหว่างแฟชั่นและอาหาร ภายใต้การออกแบบที่สะท้อนความเป็น Vivienne Westwood ในทุกมุมมอง สร้างบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์และแปลกใหม่ ร้านกาแฟแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่รับประทานอาหาร แต่เป็นแกลเลอรี่ที่ผสานระหว่างรสชาติและศิลปะการออกแบบอย่างลงตัว

เมนูอาหารเริ่มต้นด้วย Crispy Squid ปลาหมึกทอดกรอบนอกนุ่มในตีความใหม่แบบเมดิเตอร์เรเนียน เสิร์ฟพร้อมซอส aioli เผ็ดร้อนที่ทำขึ้นเองพิเศษ ความเผ็ดร้อนที่ไม่รุนแรงแต่ส่งความหอมหวานของกระเทียมและมะนาว Spicy Spaghetti Bolognese ซอสโบโลเนสเนื้อเข้มข้น โรยด้วยพาร์สลีย์และพาร์เมซานชีส Rib eye สเต็กเนื้อ เสิร์ฟกับมันฝรั่งบดนุ่ม มะเขือเทศเชอร์รีอบ และซอสพริกแกงเขียวหวานรสเผ็ดเล็กน้อย Lobster Roll ในบริออชนุ่มฟู ยัดไส้ด้วยเนื้อล็อบสเตอร์ผสมมายองเนส หางล็อบสเตอร์สดใหม่ และหัวไชเท้าเชอร์รี่ให้ความกรอบสดชื่น ขนมหวานโดดเด่นด้วย Raspberry Soufflé ซูเฟร่ราสเบอร์รี่ร้อนๆ ที่ฟูนุ่มละมุน เสิร์ฟคู่ไอศกรีมวานิลลาและซอสราสเบอร์รี Signature Orb Waffle วาฟเฟิลซิกเนเจอร์รูปทรงโลโก้ของ Vivienne Westwood ท็อปด้วยสตรอว์เบอร์รีสด คาราเมลเค็มหวาน และคุกกี้โอริโอ้บด Japanese Pancake แพนเค้กญี่ปุ่นหนานุ่ม เสิร์ฟกับครีมชีสโฟม เบอร์รีรวม และซอสราสเบอร์รี่ เครื่องดื่มพิเศษอย่าง The Orb Cold Brew Coffee กาแฟโคลด์บรูจากเมล็ดกาแฟหมักในบาร์เรลบรั่นดี ให้รสชาติผลไม้และไวน์ Boudoir (Rose Latte) ลาเต้กุหลาบหอมหวาน Veil of Petals คอมบูชาลิ้นจี่กุหลาบกับน้ำเชื่อมกุหลาบ และ Rosy Garnet เครื่องดื่มผสมเกรปฟรุ๊ตรูบี้ น้ำลูกแพร์ และโฟมครีมกาแฟ ทุกเมนูสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และการนำเสนอที่เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ Vivienne Westwood

Zuicho ร้านอาหารญี่ปุ่นมิชลินสตาร์หนึ่งดาว นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่หาได้ยากในระดับสากล ด้วยบรรยากาศที่เรียบง่ายแต่หรูหรา เน้นความเป็นธรรมชาติและความสงบ ตามหลักปรัชญาญี่ปุ่นที่เน้นการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและเทคนิคการทำอาหารแบบดั้งเดิม ทุกรายการในเมนูถูกคัดสรรและปรุงด้วยความประณีตสูงสุด โดยเมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ตัวอย่างเมนูที่เราได้ลองได้แก่

Lunch Tasting Menu เริ่มต้นด้วย Homemade Sesame Tofu เต้าหู้งาทำเองที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุนเหมือนไหม รสชาติอ่อนหวานของงาที่หอมกรุ่น Seasonal Sashimi ซาชิมิสองชนิดตามฤดูกาลที่หั่นด้วยมือเชฟผู้เชี่ยวชาญ เนื้อปลาสดใหม่ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง ละลายในปากพร้อมความหวานธรรมชาติ A5 Black Wagyu Beef Tenderloin Cutlet เนื้อวากิวระดับ A5 สีดำจากส่วนเทนเดอร์ลอยน์ที่นุ่มละมุนจนละลายในปาก ทอดในน้ำมันที่อุณหภูมิพอดี Pike Conger with Kamonasu Eggplant Hotpot ปลาไพค์คองเกอร์สดใหม่ในหม้อไฟกับมะเขือยาวคาโมนาสุ นำเสนอในน้ำซุปใสที่เคี่ยวจากกระดูกปลาและคอมบุ ให้รสชาติหวานละมุน Takikomi Rice with Seasonal Seafood ข้าวตากิโคมิ ข้าวญี่ปุ่นหุงกับซีฟู้ดตามฤดูกาล ข้าวซึมซับรสชาติจากน้ำซุปและวัตถุดิบ หอมหวานเป็นธรรมชาติ และปิดท้ายด้วย Kashiwa Mochi with Shaved Ice โมจิคาชิวะใส่ใบไผ่ เสิร์ฟกับน้ำแข็งไสเนื้อละเอียดที่ให้ความเย็นสดชื่น ทุกจานสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความเคารพต่อวัตถุดิบของเชฟญี่ปุ่น สร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นแท้ที่สมบูรณ์แบบ

Mesa by José Avillez ไม่เพียงแค่เป็นร้านอาหารโปรตุเกสร่วมสมัย แต่ยังเป็นบาร์ที่นำเสนอศิลปะการผสมเครื่องดื่มอย่างสร้างสรรค์ ค็อกเทลซิกเนเจอร์ Holy Wood! เป็นการผสมผสานที่ซับซ้อนและน่าค้นหา ใช้ Smoky Palo Santo Tennessee Whisky เป็นเบส ผสมกับ Pineapple Skin infused Campari ที่ทำจากเปลือกสับปะรดหมักเพื่อลดของเสีย ให้ความขมหวานและหอมผลไม้เขตร้อน เติมเต็มด้วย Rosso Vermouth ที่ให้ความซับซ้อนของสมุนไพรและความหวานอ่อนๆ กลิ่นหอมของ Palo Santo ที่ลอยออกมาจากแก้วสร้างประสบการณ์ทางกลิ่นที่เหนือธรรมดา Farm It Yourself สะท้อนแนวคิด farm-to-table ผ่านการใช้ Apple Peel Pisco ที่กลั่นจากเปลือกแอปเปิ้ล ผสมกับ Dry Curacao ให้ความขมหวานของเปลือกส้ม เติม Verjuice ที่ให้ความเปรี้ยวสดชื่นธรรมชาติ และ Clarified Fig Apple Pear Soda น้ำโซดาที่ทำจากมะเดื่อ แอปเปิ้ล และลูกแพร์ที่ผ่านกระบวนการกรองให้ใส เครื่องดื่มนี้สื่อถึงความสดใหม่ของฟาร์มและความคิดสร้างสรรค์ในการนำวัตถุดิบธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด



Cultural Treasures & Iconic Destinations
นอกเหนือจากประสบการณ์การพักผ่อนอันแสนสบาย และความอร่อยกับรสชาติที่ยอดเยี่ยมของ Grand Lisboa Palace Resort Macau แล้ว การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวโดยรอบยังเป็นส่วนสำคัญที่เติมเต็มการเดินทางให้สมบูรณ์ ด้วยระบบรถรับส่งฟรีที่ครอบคลุม 14 จุดหลักทั่วมาเก๊า เราสามารถเดินทางไปยังสถานที่สำคัญได้อย่างสะดวก จุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดอย่างเช่น
Senado Square (จัตุรัสเซนาโด) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ พื้นที่ปูด้วยหินโมเสกสีดำขาวลายคลื่นโปรตุเกส ล้อมรอบด้วยอาคารสีพาสเทลสไตล์โคโลเนียล ที่นี่เป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้ง รับประทานอาหารข้างถนน และสัมผัสบรรยากาศผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก

The Ruins of St. Paul’s (ซากโบสถ์เซนต์ปอล) สัญลักษณ์สำคัญของมาเก๊า ซากโบสถ์ที่สร้างในศตวรรษที่ 17 เหลือเพียงหน้าจั่วหินอันงดงามที่แกะสลักประณีต สะท้อนความรุ่งเรืองของการค้าขายและการเผยแพร่ศาสนาในอดีต บันไดหินนำขึ้นสู่ซากโบสถ์เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
Penha Hill (เขาเปนยา) จุดชมวิวธรรมชาติที่เงียบสงบ ตั้งโบสถ์เล็กๆ บนยอดเขา ให้ทิวทัศน์ที่สวยงามของท่าเรือและเมืองเก่า เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นผ่อนคลายและชมพระอาทิตย์ตก บรรยากาศเงียบสงบแตกต่างจากความคึกคักของเมือง และที่นี่สามารถชมวิว Macau Tower (หอคอยมาเก๊า) ได้ด้วย

Old Taipa Village (หมู่บ้านเก่าไทปา) ชุมชนดั้งเดิมที่รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไว้ได้ดี ถนนเล็กๆ เต็มไปด้วยบ้านช่องแถวสีสันสดใส ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารท้องถิ่นแท้ๆ เป็นจุดที่ดีสำหรับการเดินชมและซื้อขนมอย่างทาร์ตไข่ และยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของมาเก๊า

Grand Lisboa Palace Resort Macau
- Location: Cotai, Macau
- Hotel Reservations: (+853) 8881 8000 / [email protected]
- For more information on room packages https://www.grandlisboapalace.com/en/offers







