Phra Nakhon (Sunday Brunch)

      ห้องอาหาร “พระนคร” (Phra Nakhon) ร้านอาหารไทยใหม่ถอดด้ามแห่งย่านเจริญกรุง ห้องอาหารที่จะพาเราย้อนกลับไปลิ้มรสอาหารไทยรสชาติตำรับดั้งเดิมแบบไทยแท้ (Authentic Thai) ล่าสุดทางห้องอาหารได้เปิดตัวมื้อพิเศษ มื้อที่เสิร์ฟอาหารแบบจัดเต็มที่สุดนั่นคือมื้อซันเดย์บรันช์ ซึ่งพระนครได้ขนามนามมื้อนี้ว่า “Signature Sunday Brunch” ขึ้นชื่อว่าซิกเนเจอร์ ก็ต้องมีเอกลักษณ์ มีความแตกต่างให้ทุกคนจดจำได้ พร้อมแล้วเรามาค้นหาเอกลักษณ์และสำรวจ Signature Sunday Brunch แห่งห้องอาหารพระนครไปพร้อมกันเลยดีกว่า

      เริ่มกันตั้งแต่ที่ตั้งของห้องอาหาร “พระนคร” เป็นห้องอาหารริมน้ำของโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ การได้นั่งรับประทานอาหารบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงมื้อสายของวันอาทิตย์ ร่วมกับครอบครัว คนรักหรือกลุ่มเพื่อนสนิทนั้น เป็นโมเมนต์ที่สมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ ยิ่งมีวงดนตรีสด (Live Brand) มาร้องขับกล่อมเพลงเพราะ ๆ ชิลล์ ๆ ให้ฟังกันในระหว่างที่เราเพลินกับรสชาติอาหารอย่างมื้อนี้ ยิ่งควรค่าแก่การแวะมาอย่างที่สุด

      ส่วนอาหารในมื้อ Signature Sunday Brunch มีให้เลือกหลากหลายด้วยเมนูคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม ทั้งวากิว เนื้อแกะย่าง หมูไอเบริโก ซีฟู้ดแพลตเตอร์ พาสต้าเส้นสด ตลอดจนเมนูอาหารไทยตำรับโบราณหลากหลายเมนู ในขณะที่ คุณอ๋อ พัฒวุฒิ วุฒิประพันธ์พงศ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ เล่าให้เราฟังว่า “คอนเซ็ปต์ Signature Sunday Brunch คืออยากให้ทุกคนมีความสุขและรื่นรมย์กับรสชาติอาหารอย่างแท้จริง ดังนั้นทุกเมนู ทุกสเตชั่นที่จัดเสิร์ฟ ถูกออกแบบและคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน จะเห็นว่า เราไม่มีสลัด ขนมปัง ชีส วางเป็นสเตชั่น แต่เราเสิร์ฟเป็นตะกร้าขนมปัง แพลตเตอร์รวมซีฟู้ด แพลตเตอร์รวมชีส เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มลองเมนูอย่างพรีเมี่ยม”

      งั้นเรามาเริ่มเล่าเมนูต่าง ๆ ที่เสิร์ฟในมื้อ Signature Sunday Brunch กันเลยดีกว่า เริ่มจากเมนูที่สามารถเลือกสั่งกับพนักงานให้มาเสิร์ฟที่โต๊ะ แพลตเตอร์รวมซีฟู้ด จัดเต็มด้วยกุ้งล็อบสเตอร์ กุ้งก้ามกราม ปูม้า หอยแมลงภู่ จานใหญ่เต็มจาน ถ้าไม่พอสามารถสั่งเพิ่มได้ พร้อมกันนี้ยังสามารถสั่งเมนู ส้มตำ ที่เลือกได้ว่าเป็นตำเส้นมะละกอหรือข้าวโพด พร้อมใส่อาหารทะเล ปู กุ้ง หอย แบบไม่อั้นทานแกล้มกันได้ด้วย หรือจะลองสั่ง ลาบไก่สไตล์อีสาน, ปลากะพงขาวอบตะไคร้ และกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาและกุ้งแห้ง ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

      ต่อกันด้วยเมนูที่ต้องสั่ง ถ้าไม่สั่งเหมือนยังมาไม่ถึงนั่นคือ หมูกรอบผัดพริกเกลือ ทางห้องอาหารใช้หมูสามชั้นคุโรบูตะมาทำเป็นหมูกรอบ จากนั้นนำมาผัดกับพริกขี้หนูและสมุนไพร หนังกรอบเนื้อฟูนุ่ม ช่วงที่ทุกคนรับประทานพร้อมกัน เกิดเป็นเสียงกรุบ ๆ ดังไปทั่วโต๊ะ ทุกคนต่างหันมองกันและกันพร้อมส่งรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี และยังมีในส่วนของเมนู ผัดไทยปูนิ่ม, ผัดผงกะหรี่หอยเชลล์ฮอกไกโด และผัดกะเพรา เมนูคลาสสิคสไตล์กรุงเทพ สามารถเลือกวัตถุดิบได้ทั้ง ไก่ หมู หรือทะเล

      ในระหว่างที่นั่งรับประทานอาหาร ยังมีการบริการเมนูอาหารแบบที่มีการปรุงบนรถเข็นอาหารข้างโต๊ะ เมนูที่เสิร์ฟประกอบด้วย ยำทะเลรสเด็ดจัดจ้าน เมนูที่รวมวัตถุดิบจากท้องทะเลทั้ง หอยแมลงภู่ หอยหลอด กุ้งก้ามกราม และปู คลุกเคล้าด้วยน้ำยำรสแซ่บ ยำแหนมคลุก เมนูยำแหนมสไตล์ภาคเหนือ ที่มีส่วนผสมหลักคือ ข้าวทอดกับแหนมสด คลุกเคล้าผสมกับขิงสดหอมแดงและสมุนไพรต่าง ๆ

      ยำส้มโอปลาย่าง ที่ทางห้องอาหารคัดเอาส้มโอหวานคลุกเคล้าผสมกับใบมะกรูดสับ น้ำพริกเผาพระนคร เม็ดมะม่วงหิมพานต์บดและใบพลู หรือจะลองสั่ง ไก่สะเต๊ะเสียบไม้เสิร์ฟพร้อมซอสถั่วลิสงแบบโบราณและอาจาด ก็น่าลอง อยากซดน้ำซุปร้อนๆ ก็มีเมนู ต้มยำกุ้งแม่น้ำ ต้มยำรสจัดที่ดูคล้ายกับว่าเป็นต้มยำน้ำข้นทั่วไป แต่เมนูนี้มีความพิเศษมากว่านั้นคือ ความข้นของน้ำต้มยำที่เห็น เกิดจากการใช้น้ำข้าวหอมมะลิมาปรุงเป็นน้ำต้มยำ เพื่อให้เมนูดีต่อสุขภาพลดไขมันจากกะทิ

      ทางด้านเมนูที่เสิร์ฟแบบไลฟ์สเตชั่นก็มีเช่นกัน อาทิเช่น ฟัวกราส์เซียร์กับน้ำผึ้งและสมุนไพร เสิร์ฟกับขนมปังบริออชย่าง และมัลเบอร์รี่ หอยนางรมหลายสายพันธุ์ ทั้งฟินเดอแคลร์ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และหอยนางรมไอร์แลนด์

      และยังมี ซาชิมิ และนิกิริซูชิหน้าต่าง ๆ ให้คุณได้เลือกเพลินกับ แซลมอน, ปลาฮามาจิ, ปลากะพง, ไข่หวานทามาโกะ, ไข่ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, หอยเชลล์, ปลาหมึกยักษ์, ปลาไหลอูนางิ กุ้ง ปลาซาบะ

      อีกหนึ่งสเตชั่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ พาสต้าโฮมเมด ที่เชฟยืนทำเส้นพาสต้าสด ปรุงเสิร์ฟกันจานต่อจาน ทั้ง เฟตตูชินี่, ราวิโอลี, ทอร์เทลลินี เลือกปรุงกับซอสต่าง ๆ ได้ตามความชอบทั้ง มะเขือเทศเชอร์รี่, พริก, กระเทียม, เห็ด, หัวหอม, แฮม, ครีม, ใบโหระพา, ผักชีฝรั่งเพสโต้, คาโบนาร่า, โบโลเนส, กุ้งล็อปสเตอร์, ปู, หอยหลอด, ปลาหมึก

      ทางด้านของเมนู Carving มีให้เลือกฟินกับ เนื้อวากิวไพร์มริบ A5, เนื้อแกะย่าง, หมูไอเบริโก และพายปลาแซลมอน

      ความอร่อยยังไม่จบ เพราะทางร้านยังมีอีกเมนูอร่อยสำหรับคนรักแกง ห้องอาหารพระนครขึ้นชื่อทางด้านเครื่องพริกแกงที่รสชาติเข้มข้นเด็ดมาก อย่างเช่น แกงขี้เหล็กเนื้อ แกงขี้เหล็กสไตล์ท่าจีนใส่เนื้อแก้มวัว ใบขี้เหล็ก กะทิ ปลาทูเค็มและพริกแห้งทอดกรอบ เป็นเมนูที่เราอยากลองตั้งแต่เห็นชื่อเมนู อร่อยเพลินจนหมดชามอย่างรวดเร็ว และยังมีแกงเขียวหวานไก่, แกงพะแนงหมู และเมนูอบวุ้นเส้นให้เลือกสั่งเพิ่มเติม

      สำหรับใครเป็นสายของหวาน อย่าพลาดด้วยประการทั้งปวง กับมุมขนมหวานที่เชฟขนมหวานทำออกมาสวยจนตัดใจเลือกชิมไม่ถูก เกิดอาการรักพี่เสียดายน้องจนต้องสั่งมาลองทุกอัน ทั้งขนมหวานไทยและเทศให้เลือกชิม เมนูขนมไทยยกขบวนมาด้วยข้าวเหนียวมะม่วง, ขนมใส่ไส้, ข้าวตังหน้าตั้ง, ขนมกล้วย เสริมทัพความอร่อยให้มื้อนี้ได้อย่างลงตัว

      ตอกย้ำความฟินด้วย ซิตรัสมงบล็อง, มาการองมะพร้าวมะนาว, เค้กช็อคโกแลตและเอิร์ลเกรย์, ราสเบอร์รี่พาฟโลวา, ชาเขียวทีรามิสุ และเครลีกยูสฝรั่งสีชมพูกับน้ำผึ้ง และยังมี ซูเฟล่ช็อคโกแลต (soufflé) เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา, ชูโรส เสิร์ฟกับช็อคโกแลตร้อน วิปครีมช็องติยี่ และเครมบรูเล่ และยังมีไอศกรีมหลากหลายรสชาติให้เลือกสั่งไม่ว่าจะเป็น รสช็อคโกแลต, รสรัมและลูกเกด, รสมะม่วง และรสวานิลลา

      ครบถ้วนสมบูรณ์แบบขนาดนี้ เราเห็นด้วยแล้วล่ะที่จะยกให้มื้อนี้เป็น Signature Sunday Brunch บุฟเฟ่ต์บรันช์วันอาทิตย์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำบอกเล่าประสบการณ์ที่เราได้ไปสัมผัส จนเกิดเป็นความประทับใจจนอยากชวนคุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง ใครที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ แนะนำให้โทรมาจองที่นั่งล่วงหน้า รับรองว่าจะเป็นอีกหนึ่งมื้ออาหารที่น่าจดจำของคุณ

Signature Sunday Brunch

• ให้บริการทุกวันอาทิตย์ ​เวลา 12:00 – 15:00 น.
• ห้องอาหารริมน้ำพระนคร (Phra Nakhon) โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ
• ราคาผู้ใหญ่ 3,000++ บาท / เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 1,500++ บาท
• ฟรีโฟลว์แพ็กเกจมี 2 ราคา 960++ บาท และ 2,400++ บาท

• สำรองที่นั่งผ่านเว็บไซต์: sotraveler.com/Phranakhon.Bangkok
• สำรองที่นั่งผ่านโทรศัพท์: 02-098-3817 / 02-098-3888
• FB: Phranakhon.Bangkok
• IG: @Phranakhon.bangkok