The Loft and 13 New Cocktails #ArtistsatTheLoft

เย็นวันศุกร์ผ่านมาอีกครั้ง ก็หันซ้ายหันขวาหาที่แฮงค์เอ้าท์ปล่อยใจกันสักหน่อย นึกขึ้นได้ว่าที่ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เขากำลังโปรโมทเมนูค็อกเทลเซ็ตใหม่ ที่มีให้เลือกมากมายถึง 13 แก้วด้วยกัน โดยเป็นการใช้เทคนิคถึง 13 เทคนิคในการรังสรรค์ ภายใต้ชื่อว่า #ArtistsatTheLoft ที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปิน… แค่ข้อมูลก็เย้ายวนใจจนต้องแวะมาลองสักหน่อยแล้ว

The Loft (เดอะ ล็อฟท์) บนชั้น 56 ที่มีวิวอลังการ เป็นที่ตั้งของค็อกเทลบาร์ลอยฟ้าบรรยากาศสุดพิเศษกลางกรุง ที่ได้ร่วมมือกับอาจารย์ และนักศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พัฒนาเมนูค็อกเทลสุดหรู มากถึง 13 แก้ว และทุกแก้วล้วนรังสรรรค์ออกมาจากความตั้งใจ พูดมาถึงตรงนี้ หยิบเมนูขึ้นมาเลือกกันดีกว่าว่าเราจะลิ้มลองเมนูใดกันดี 

เริ่มเมนูแรกกับ เดอะแมกโนเลียส์ (The Magnolias) กับบรรยากาศยามเย็นที่ฟ้าใกล้จะมืด แสงไฟของเมืองกรุงเริ่มส่องแสงสวยงาม กับ เดอะแมกโนเสียส์ ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของรัม ปิสโกหมักโกจิ เบอร์รี่ น้ำฝรั่ง มะนาว และน้ำเชื่อมกลิ่นวอลนัท และงา โดยศิลปินใช้เทคนิคการวาดภาพสีอะคริลิคถ่ายทอดประสบการณ์การดื่ม ช่างเข้ากับวิวสวย ๆ โดยรอบจริง ๆ 

เมนูที่อยากแนะนำให้ลองอีกหนึ่งเมนูก็คือ ชาไทย (Cha Thai) จากเครื่องดื่มยอดนิยม สู่ค็อกเทลแก้วใหม่ที่มิกซ์โซโลจิส (Mixologists) ได้เลือกใช้รัมสัญชาติไทย ผสมกับเวอร์มุธหมักชาไทย น้ำเชื่อมกลิ่นมะขามหวาน และโฟมครีมข้าวหอมมะลิ สำหรับภาพที่นำมาจับคู่กันในเมนูนั้น แสดงถึงบาร์เทนเดอร์ที่กำลังทำค็อกเทลแก้วนั้นอย่างตั้งใจผ่านเทคนิคการสเปรย์ ซึ่งเป็นเทคนิคศิลปะที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยม นำมิติของศิลปะสู่ประสบการณ์การดื่มได้อย่างลงตัว

แก้วต่อไป จัสดรอปอิท (Just Drop It) ขอจัดให้อยู่ในเมนูที่ไม่ควรพลาด เพราะได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดสีน้ำมัน สู่ค็อกเทลแก้วพิเศษ ที่มิกซ์โซโลจิสใช้เทคนิคการหยดสีน้ำมันบนเครื่องดื่มแบบใส ที่มีส่วนผสมของวิสกี้ เวอร์มุธ น้ำว่านหางจระเข้ มะนาว น้ำเชื่อมกลิ่นดอกบัว และมะขามหวาน โดยขั้นตอนสุดท้ายก่อนเสิร์ฟจะมีการหยดน้ำมันมะพร้าวผสมสี 4 จุด ได้แก่ สีแดง (จากกุหลาบและราสป์เบอร์รี่) สีเขียว (ใบโหระพา) สีส้ม (ขิง) และสีน้ำเงิน (อัญชัน) เพื่อให้ผู้ดื่มได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลป์บนแก้วได้อย่างเพลิดเพลิน 

เมนู เลเวลฟิฟตี้ซิกส์ (Level 56) เป็นค็อกเทลที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อชวนให้นึกถึงมิกซ์โซโลจิส และบาร์เทนเดอร์บนชั้น 56 ของเดอะ ล็อฟท์แห่งนี้ ค็อกเทลมีส่วนผสมของจินเป็นหลัก ผสมกับน้ำมะพร้าวที่แฝงด้วยรสชาติของนมเพิ่มความละมุน (Clarified Coconut Milk Punch) น้ำเชื่อมกลิ่นกุหลาบผสมลิ้นจี่ และโทนิคกลิ่นส้มและดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ โดยมิกซ์โซโลจิสได้วาดสีลงบนแก้ว ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับการวาดภาพในรูปที่จับคู่กันในเมนู สร้างความสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์จริง ๆ

สำหรับเมนูสุดท้ายที่เราได้ลองในค่ำคืนนี้คือ มิดไนท์โมเสก (Midnight Mosaic) ค็อกเทลคลาสสิกสไตล์ Old-Fashioned ที่เน้นรสชาติที่ตรงไปตรงมาผ่านส่วนผสมของเหล้าเบอร์เบิ้น เวอร์มุธ เพิ่มเสน่ห์ของรสชาติด้วยเหล้ากาแฟกลิ่นส้ม และน้ำเชื่อมกลิ่นข้าวคั่วบาร์เล่ย์ ซึ่งมีเทคนิคที่คล้ายกับชิ้นงานศิลปะแบบคอลลาจ (Collage) ที่นำองค์ประกอบต่าง ๆ จากหลากหลายมารวมกันไว้ในที่เดียวกัน ค็อกเทลแก้วนี้คือการผสมผสานของรสชาติที่ต่างกันได้ลงตัว 

เมื่อการดื่ม ก็เปรียบเหมือนงานศิลปะ โลกของมิซ์โซโลจิส ค็อกเทลก็เปรียบเหมือนผืนผ้าแคนวาส ที่พร้อมให้ศิลปินบรรเลงฝีมือในการรังสรรค์ผลงานชิ้นเอกจากเทคนิคขั้นสูงที่มี ออกมาเป็นเมนูค็อกเทลที่หลากหลาย เพื่อส่งมอบความประทับให้แก่นักดื่มที่มีศิลปะในหัวใจทุกคน

เป็นประสบการณ์การดื่มค็อกเทลที่ว้าวมากจริง ๆ ขอบคุณ The Loft (เดอะ ล็อฟท์) ที่รังสรรค์เมนูสุดแสนวิเศษแบบนี้ขึ้นมา เพราะการดื่มของเราในทุก ๆ แก้ว เรารับรู้ได้ถึงความตั้งใจและความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ ให้เกิดเป็นค็อกเทลดี ๆ นี้ขึ้นมา 

เดอะ ล็อฟท์ ตั้งอยู่บนชั้น 56 โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เปิดให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 17.00 น.  – 00.00 น. ในวันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี และระหว่างเวลา 17.00 น. – 01.00 น. ในวันศุกร์ และวันเสาร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02-846-8888