ชวนมาจิบชายามบ่ายที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ กับการเสิร์ฟ Afternoon Tea ในรูปแบบคอร์ส

ในยุคสมัยที่ชุดน้ำชายามบ่าย (Afternoon Tea ) มีกระจายตัวอยู่ทั่วเมืองกรุงเทพฯ แม้แต่ในห้างดังใจกลางเมือง ความเป็นคนช่างเลือกและพิถีพิถันในการเลือกทานอย่างเรา คงไม่ใช่แค่แวะไปทานชุดน้ำชายามบ่าย ที่ไหนก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเราก็ชงชาอยู่บ้านแล้วเอาขนมมาวางเรียงบนชั้นนั่งทานหน้าทีวีก็คงจะเพียงพอสำหรับการตีความหมายของชุดน้ำชายามบ่าย (Afternoon Tea ) ว่าเป็นแค่การทานขนมคู่กับชา

สำหรับ SOtraveler เรามีหลักเกณฑ์ของการเลือกทานชุดน้ำชายามบ่าย (Afternoon Tea ) อยู่ 5 ข้อหลัก ได้แก่

1. ความพรีเมี่ยมและความหลากหลายของชา/กาแฟที่เสิร์ฟ
2. ความสร้างสรรค์ของเมนูขนม ขนมปัง หรือแซนด์วิช ขึ้นอยู่กับการเลือกเสิร์ฟ
3. พรีเซนเทชั่นการเสิร์ฟ
4. วิวและบรรยากาศ
5. ความคุ้มค่าของราคา ที่ประเมินจากการบริการที่ได้รับผสมกับสี่ข้อก่อนหน้านี้

สำหรับวันนี้เรามีอีกหนึ่งชุดน้ำชายามบ่าย มาแนะนำให้ผู้อ่านทุกคนได้มาลองชิมกันกับชุดน้ำชายามบ่ายโฉมใหม่ของโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ “Afternoon Tea Reimagined” ที่เราได้ไปสัมผัสประสบการณ์การจิบชานี้ด้วยตัวเองและเรายกให้ชุดน้ำชายามบ่าย ชุดนี้ติดอยู่ในอันดับของ 1 ใน 5 ชุดน้ำชายามบ่ายในกรุงเทพฯ ที่คุ้มค่าคุ้มราคาต้องไปลอง

เอาล่ะ…ทุกคนคงอยากติดตามอ่านประสบการณ์การนั่งทานชุดน้ำชายามบ่ายจาก SOtraveler กันแล้ว เรามาเริ่มต้นตั้งแต่บรรยากาศกันเลยดีกว่า “Afternoon Tea Reimagined” ให้บริการที่หนุมาน บาร์ บริเวณชั้นล้อบบี้ของโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ที่ให้บรรยากาศอันแสนโอ่อ่าหรูหรา

ช่วงเวลาที่มาทานชุดน้ำชายามบ่าย อาจจะเห็นแขกผู้หญิงบางคนสวมหมวกไว้บนหัว ผู้ชายบางคนใส่สายเอี๊ยมคลาสสิกมานั่งจิบชา ไม่ได้เป็นควันหลงจากงานพิธีเสกสมรสของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ แต่เป็นกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ของ Afternoon Tea Reimagined ที่อยากให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศการจิบชายามบ่ายสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ด้วยการแต่งตัวให้มีกลิ่นอายแฟชั่นของผู้ดีอังกฤษกันสักเล็กน้อย ซึ่งหากพูดถึงแฟชั่นสไตล์อังกฤษแล้วล่ะก็ ภาพของแฟชั่นหมวกและสายเอี้ยมลอยมาในหัวเป็นอันดับแรกๆ ถ้าใครอยากแชะรูปตัวเองจิบชาสวยๆลงโชเชียลมีเดีย อินสตาแกรม เฟสบุคเรียกยอดไลค์จากเพื่อนๆล่ะก็ จะจัดเต็มมาเลยก็น่ารักดี แต่ถ้าไม่สะดวกก็แวะมาทานให้อร่อยเมาท์มอยกับเพื่อนในกลุ่มก็ได้เหมือนกัน

ชุดจิบชายามบ่าย “Afternoon Tea Reimagined” เสิร์ฟคู่กันกับชาแบรนด์เก่าแก่สัญชาติเยอรมันคุณภาพดีนำเข้า รอนเนอเฟลด์ (Ronnefeldt) หรือหากอยากจิบกาแฟก็มีตัวเลือกเป็นกาแฟคั่วบดใหม่จาก Lavazza

ในส่วนของชารอนเนอเฟลด์ (Ronnefeldt) ที่เป็นชาพื้นฐานก็มีในตัวเลือก แต่ทางโรงแรมอยากจะแนะนำชาเบลนด์ 3 ชนิดให้แก่  White Yunnan Silver Tips, Splendid Earl Grey และ Morgentau ซึ่งทั้ง 3 ชนิดให้สัมผัสของกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สำหรับคอชาคงเลือกกันได้ไม่ยาก เพราะมีชาที่ชอบอยู่ในใจ สำหรับมือใหม่เลือกไม่ถูก สามารถสอบถามและซักถามกับพนักงานได้ นี่คือหนึ่งในความเป็น Afternoon Tea Reimagined ที่สยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ สอดแทรกเข้ามาอย่างสัมผัสได้นั่นคือ ศิลปะในการเสิร์ฟอาหารที่มีการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานที่ให้บริการและลูกค้าที่มาใช้บริการ หากใครเคยมาทาน  ‘The Journey‘ ที่ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน (Sra Bua by Kiin Kiin) ล่ะก็จะมีกลิ่นอายการเสิร์ฟที่คล้ายๆกัน

ชุดจิบชายามบ่าย “Afternoon Tea Reimagined” เสิร์ฟให้บริการรวมทั้งหมด 5 คอร์ส แนะนำว่าอย่าเพิ่งทานอาหารมื้อเที่ยง หากวางโปรแกรมไว้ล่วงหน้าว่าจะแวะมาทานชุดจิบชายามบ่ายของที่นี่ เรารับประกันว่าคุณจะเพลินจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปห้าโมงเย็นอย่างรวดเร็ว

คอร์สแรกเริ่มต้นเสิร์ฟด้วยเมนูคานาเป้ (Canape) เรียกน้ำย่อยที่อร่อยมาก เสิร์ฟในภาชนะปิ่นโตสีสันสดใส ประกอบไปด้วย แครกเกอร์มัสมั่นเป็ด (Massaman Duck Rice Cracker), ขนมทองม้วนไส้ชาไทย (Crispy Thai Tea Roll)  ครีมโคนชาเขียวน้ำผึ้งผสมมะนาว (Mini Honey and Lime Matcha Cone), คัสตาร์ดสไตล์มาเก๊าท็อปด้านบนด้วยแยมมะม่วง (Macanese Custard with Dried Mango Confit) และ ขนมปังสอดไส้เกาลัด (Steamed Chestnut Bun)

คอร์สถัดมาจะเสิร์ฟเป็นเมนูแซนด์วิชโฮมเมด ที่เชฟจะออกมาแล่ปลาแซลมอนรมควันสดใหม่ให้ถึงโต๊ะ

พร้อมกับให้เราเลือกว่าจะทานคู่กับขนมปังพัมเพอร์นิกเกิล (ขนมปัง rye เกรดพรีเมี่ยม) หรือแพนเค้กบลินิช

และยังมีเครื่องเคียงให้เลือกตามใจชอบอย่าง crab rillettes เนยฮอสแรดิช เลเมอน และ ผลเคเปอร์ดอง

ภายในคอร์สยังมีเมนูซาลาเปาไส้หมูบาร์บีคิวกับแซนด์วิชสะเต๊ะไก่ เสิร์ฟมาพร้อมกันในคอร์สอีกด้วย

เราเดินทางกันมาถึงคอร์สที่สาม กับเมนูซิกเนเจอร์ที่ขาดไม่ได้ภายในชุดน้ำชายามบ่ายนั่นก็คือขนมสโคน (Scones) ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของหนุมาน บาร์ (เสิร์ฟทั้งแบบดั้งเดิมและผสมลูกเกด) รับประทานคู่กับครีมขาวข้น (Clotted cream) ครีมนมเสาวรส (passion fruit curd)และโฮมเมดแยมราสเบอร์รี (Raspberry Preserves)

เดินทางกันมาถึงคอร์สที่สี่ หวังว่าคงจะยังไม่อิ่มแน่นกันจนเกินไป เมนูจะเริ่มเบาๆลงแล้ว คอร์สนี้เป็นขนมเอแคลร์ (Mini Éclair) ที่มีให้เลือกรับประทานถึงห้าชนิดเช่น เอแคลร์เสาวรสมะม่วงที่ให้รสชาติเปรี้ยวชื่นใจ (passion fruit and mango éclair), เอแคลร์เอพริคอต วานิลลาเบอร์เบิ้น (bourbon vanilla and apricot éclair), เอแคลร์ไวท์ช็อกโกแลต (White Chocolate Cherry), เอแคลร์ราสเบอรี่ (Rasberry Manjari) และ เอแคลร์ชาเขียวมัชชะ (Matcha)

ถึงแม้ว่าเราจะเดินทางมาเกือบจะคอร์สสุดท้ายแล้ว บรรยากาศเคล้าเสียงเพลงบรรเลงอันไพเราะจากเครื่องดนตรีฮาร์ปยังคงบรรเลงให้ฟังอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งเราก็เดินทางกันมาถึงคอร์สสุดท้ายของชุดน้ำชายามบ่ายนี้ด้วย เป็นคอร์สขนมหวานชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ (mignardise) ซึ่งประกอบไปด้วย Marshmallow,Chocolate Cups with Berries ,Meringue Drops ,Luk Choop ,Fruit Coin ,Fruit Pate ,Imported Candies ,Praline Selection ,Assorted Maccaroon

ชุดน้ำชายามบ่าย “Afternoon Tea Reimagined” ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งชุดน้ำชายามบ่ายที่น่าประทับใจ มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจทั้งทางด้านรสชาติ ด้านการบริการและบรรยากาศที่ดี จึงเป็นหนึ่งในชุดน้ำชายามบ่าย ที่เราแนะนำให้มาลิ้มลองด้วยตัวคุณเอง

“Afternoon Tea Reimagined” เปิดให้บริการ เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 14.00 น. ถึง 17.00 น. ณ หนุมานบาร์ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ราคา 999 บาท++ ต่อเซตสำหรับ 1 ท่าน (5 คอร์ส) รวมชาหรือกาแฟ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ เบอร์โทร 02 162 9000 หรือ [email protected]