Juksunchae Episode 2 ; Street of Seoul

สำหรับนักแสวงหาของอร่อย ต้องไม่พลาดมาลิ้มลอง Juksunchae (จุกซุนแช) ร้านอาหารเกาหลีสไตล์ฺไฟน์ไดนิ่ง ชั้น 5 ของอาคาร Woodberry Common ในซอยร่วมฤดี ที่เราเคยรีวิวเมื่อครั้งร้านอาหารได้เปิดตัวเซ็ตแรกของร้าน (ใครที่ยังไม่เคยติดตาม ตามไปอ่านได้ที่นี่ Juksunchae (จุกซุนแช) Korean Fine Dining Bangkok) เซ็ตแรกถือว่าเสิร์ฟมาอย่างยาวนาน คิวจองแน่นจากลูกค้าใหม่ที่ทราบข่าวคราวจากการบอกปากต่อปาก และลูกค้าที่เคยมาทานก็ติดใจกลับมาทานซ้ำอีกรอบ

สำหรับครั้งนี้ถือว่าเป็นการมาเปิดตัวซีรีส์ 2 เรียกว่า Juksunchae Episode 2 ; Street of Seoul เป็นการนำเอาเมนูอาหารในวัยเด็ก ที่อยู่ในความทรงจำของเชฟ มานำเสนอเป็น 12 คอร์ส โดยเชฟตั้งใจว่าจะมีการเปลี่ยนเมนูทุก ๆ 3 เดือน เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับอีกหลากเมนูที่เชฟอยากเปิดโลกอาหารเกาหลีแบบไฟน์ไดนิ่งให้ทุกคนได้ลิ้มลอง สำหรับความโดดเด่นของ Episode 2 ; Street of Seoul จะอยู่ที่รสชาติที่จัดจ้านขึ้น น่าตื่นเต้นมากทีเดียว

เริ่มต้นจานแรกด้วย เมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Kimchi Bomb ที่จานแรกก็ระเบิดรสชาติความเป็นเกาหลีกันเลยทีเดียว กิมจิบอมบ์จานนี้เต็มไปด้วยรสชาติของความเผ็ด เปรี้ยว ผสมผสานเข้ากับเทคเจอร์ความกรุบกรอบนุ่มละมุน

เมนูต่อมากับ Squid Yuza Mandu ที่แค่ชื่อก็รู้สึกสดชื่นแล้ว ด้วยปลาหมึกเนื้อนุ่มจับคู่กับซอสยูสุเกาหลีรสจัดจ้านทำให้เกิดรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว เป็นเมนูอาหารทะเลที่ยังคงความสดของวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี สายปลาหมึกต้องถูกใจไม่น้อย เพราะอร่อยมากจริง ๆ สำหรับจานนี้

จานต่อไปที่จัดจานมาน่ารักทีเดียวกับ Kimbap หากฟังแค่ชื่อ หรือ อ่านตัวอักษรผ่านเมนู เราคงคิดว่ามันก็คือ Kimbap รูปทรงธรรมดา ๆ ที่พบเจอได้ตามร้านอาหารในเกาหลีทั่วไป แต่ขอให้ลืมภาพจำเหล่านั้น เพราะ Kimbap จากฝีมือของเชฟ Henry Lee ได้ปรับรูปแบบการนำเสนอเมนูออกมาได้อย่างแตกต่าง จัดมาเป็นคำเล็กๆ หยิบทานง่าย ที่สำคัญรสชาติของความเป็น Kimbap ยังคงอยู่อย่างครบถ้วน ถือเป็นจานที่ Surprise นักชิมอย่างเราได้ดีเลยทีเดียว 

Oyster Kimchi กับเมนูหอยนางรม ที่ทำให้เราว้าวมาก ด้วยพระเอกของจานนี้อย่างหอยนางรมขนาดกำลังพอดีคำ Top ด้วยกิมจิรสเปรี้ยว ผสมผสานเข้ากับความหวานของเนื้อหอยนางรมที่สด รวมกันเป็นรสชาติที่ลงตัวจริง ๆ บอกเลคนรักหอยนางรมต้องกรี๊ดเมื่อได้ลิ้มลอง 

ต่อกันด้วยเมนู White Kimchi Granita with Poached Pickled Pear ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับกิมจิขาว ที่งานนี้เชฟเลือกเสิร์ฟมาในรูปแบบของ Granita แปลกตา เพิ่มความสดชื่นด้วยลูกแพร์ดองแสนอร่อย เป็นอีกเมนูที่อยากให้ได้ลองชิมจริง ๆ  

ปลาหมึกก็แล้ว หอยนางรมก็แล้ว ยกทะเลมาขนาดนี้ จะขาดหอยเชลล์ไปได้อย่างไร กับเมนู Scallop Miyeok Consomme พระเอกของเมนูนี้ ขอยกให้น้ำซุป ที่มีรสชาติสดชื่น ละมุนลิ้น เป็นตัวเคลียร์รสชาติภายในปาก เพื่อให้ได้สัมผัสความหวานจากธรรมชาติของหอยเชลล์ได้อย่างเต็มที่ จานนี้รับรู้ได้ถึงความใส่ใจในการคัดสรรหอยเชลล์ที่มีความสด เนื้อเด้ง ถูกใจสายซีฟู๊ดอีกจาน

Hwe จัดจานมาน่ารักมาก เห็นแล้วต้องรีบหยิบมือถือขึ้นมาเก็บภาพในความน่ารักของน้องจริง ๆ รสชาติของเมนูนี่ไม่ซับซ้อน เน้นไปที่ความสดของวัตถุดิบ ทานง่าย ประทับใจ

Bibimbap จากเมนูยอดนิยม สู่ Fine Dining การนำเสนอของจานนี้บอกเลยว่ามันคือศิลปะที่แท้จริง ความพิถีพิถันใส่ใจในการจัดวาง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานรสชาติได้ลงตัว เป็นจานที่สร้างความประทับใจการนักชิมได้เป็นอย่างดี

เปลี่ยนเข้าสู่โหมดเนื้อกันบ้าง กับเมนู Samgyeopsal เมนูหมูสามชั้นย่าง บอกเลยว่าความชุ่มฉ่ำของเนื้อหมูคือที่สุด เป็นการย่างที่กำลังดีลงตัวมาก ๆ บวกกับรสชาติที่กลมกล่อม ทำให้จานนี้เป็นจานที่ประทับใจมากอีกจานจริง ๆ 

Smoked Galbi มาถึงเมนูไฮไลท์อีกหนึ่งเมนู กับเนื้อนุ่มที่ผ่านการย่างมาเป็นอย่างดี ได้กลิ่นหอมของควัน ลงตัวกับรสชาติที่แสนวิเศษของซอส ทำให้จานนี้เป็นจานที่ถูกใจสายอาหารเกาหลีทุกคน

เมนูของคาวผ่านไป หนังท้องก็ตึงกำลังดี ถึงเวลาเข้าสู่โหมดของหวานสักที เมนู Pear & Plum ของหวานที่นำเสนอได้น่าทานมาก เทคเจอร์ของเมนูนี้ที่เสิร์ฟมามีความหลากหลาย ทำออกมาได้สวยงามดูมีศิลปะเป็นอย่างมาก รสชาติหวานกำลังดี มีทั้งความละมุนลิ้น และความกรุบกรอบ ผสานกันออกมาได้ลงตัว

ปิดคอร์สอย่างสวยงามกับเมนู Bungeo-ppang หรือของหวานขึ้นชื่อของเกาหลี เมนูดั่งเดิมจะเป็นเค้กรูปปลาสอดไส้ถั่วแดงกวน มักพบตามร้านข้างถนนหรือแผงลอยในประเทศเกาหลี งานนี้ถูกนำมารังสรรค์ขึ้นใหม่ในรูปแบบเมนู Fine Dining เพิ่มความหรูหรา แต่ยังคงด้วยกลิ่นอายความเป็นของหวานที่ทานง่ายแบบดั้งเดิม

และนี่คืออีกหนึ่งร้านไฟน์ไดนิ่งที่สร้างความตื่นตา แปลกใหม่ ให้กับนักชิมอย่างเรา ๆ ได้ไม่น้อย ยิ่งใครที่เคยได้เดินทางไปเยือนเกาหลีมาด้วยแล้ว จะยิ่งสนุกกับประสบการณ์มื้ออาหารนี้ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเมนูที่เรา ๆ ท่าน ๆ สามารถพบเจอได้ตามริมทาง ไม่คิดว่าเชฟ Henry Lee จะนำมารังสรรค์ออกมาเป็นเมนู Fine Dining ได้ว้าวถึงขนาดนี้ ขอปรบมือให้จริง ๆ 

• 12 Courses 3,900 THB
• 4 Glass Wine Pairing 1700 THB

Juksunchae – Korean Fine Dining Restaurant

• ชั้น 5 อาคาร Woodberry Common ในซอยร่วมฤดี เพลินจิต
• Line: @juksunchae
• Instagram: @juksunchae
• Email : [email protected]
• Open: Wednesday – Sunday
• 6:00pm – 11:00pm
• Location : https://maps.app.goo.gl/HsDbz2NTYSNKTZxE7
• Parking is available