ค่ำคืนที่กรุงเทพฯ มีเสน่ห์ในแบบที่แตกต่างกันไปสำหรับแต่ละคน สำหรับเราแล้ว หนึ่งในความสุขที่จับต้องได้คือการได้ค้นพบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ก้าวข้ามคำว่า “มื้อค่ำ” ไปสู่การเป็น “การเดินทาง” และครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่พิเศษ เมื่อได้กลับมาเยือน Sra Bua by Kiin Kiin ห้องอาหารไฟน์ไดนิ่ง ในโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาการเล่าเรื่องราวผ่านจานอาหาร

การกลับมาครั้งนี้มาพร้อมเมนูใหม่ Whispers of the Land ซึ่งเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2025 เป็นต้นไป เป็นเมนูที่ถูกออกแบบให้สะท้อนความเป็นไทยในมิติที่ลึกซึ้งกว่าเดิม ทั้งในแง่ของภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม ความทรงจำ และการตีความผ่านเทคนิคการทำอาหารแบบสากล ทุกจานคือการบอกเล่าเรื่องราวของ “ผืนดินและรากเหง้า” ด้วยรสชาติที่ประณีต ละเมียดละไม และยังคงซื่อตรงต่อแก่นแท้ของอาหารไทย

สิ่งที่ทำให้ Whispers of the Land แตกต่างคือความมั่นใจที่ซ่อนอยู่ในแต่ละคำ ราวกับเสียงกระซิบเบา ๆ จากธรรมชาติและวัตถุดิบท้องถิ่นที่กำลังเล่าเรื่องของมันเอง การเดินทางผ่านแต่ละคอร์ส เป็นการสัมผัสถึงความตั้งใจของทีมเชฟ นำโดย Chef Henrik Yde-Andersen และ Chef Chayawee Sutcharitchan ที่ร่วมกันถ่ายทอดแนวคิดร่วมสมัยให้เป็น “อาหารไทยโมเดิร์น” อย่างมีเอกลักษณ์
Street Food – จุดเริ่มต้นที่พาใจไปเดินเล่นบนถนนสายรสชาติ
คอร์สเปิดฉากมาด้วยของกินเล่นสองคำที่เล่าเรื่องความเป็นไทยอย่างหรูหรา Soy-Salted Meringue Rayong Wasabi เมอแรงก์เนื้อฟูละลายในปาก เค็มหวานละมุนจากซีอิ๊วถั่วเหลือง ตัดด้วยความฉุนสดชื่นของวาซาบิระยองที่ทำให้คำแรกตื่นตัวทันที

Pork Cracklings Vegetable Puff พัฟกรอบเบา กลิ่นสมุนไพรไทยอ่อน ๆ ซ่อนความมันกรุบของกากหมูไว้ด้านใน กัดแล้วทั้งกรอบ ทั้งหอม เป็นจังหวะสนุกของมื้อค่ำ

ต่อด้วย Curry Tasting ที่หยิบ “แกงและรสคู่ความทรงจำของคนไทย” มาย่อส่วนให้ลิ้มลองแบบ one-bite แต่ละคำมีเอกลักษณ์ชัดเจน ทั้งความหอมหวานเครื่องเทศในแบบ Massaman Curry สมุนไพรเขียวสดและความเผ็ดนุ่มของ Green Curry และถั่วลิสงครีมมีและเครื่องเทศสไตล์ Satay



ต่อด้วยเมนูสนุกครบรสแบบไทยของ ‘Miang Kham’

ก่อนจะจบชุดชิมด้วยความหอมเย็นละมุนจาก Misty Lotus ที่ช่วยรีเฟรชเพดานปากอย่างละเมียดละไม เตรียมพร้อมเข้าสู่คอร์สถัดไปอย่างสง่างาม

Soup – ความอบอุ่นที่ซ่อนความซับซ้อน
‘Kaeng Hed’ Wild Mushroom Soup เมื่อช้อนแรกสัมผัสริมฝีปาก กลิ่นหอมลึกของเห็ดป่าอบอวลขึ้นมาอย่างชัดเจน เป็นการรวมรสชาติจากเห็ดหลายชนิดที่ให้ทั้งความเข้มข้นและความหวานธรรมชาติ รสสัมผัสเนียนละเอียดคล้ายกำมะหยี่ อุ่นละมุนในลำคอ เหมือนการโอบกอดที่ทำให้เราผ่อนคลาย เตรียมใจเข้าสู่การเดินทางครั้งใหม่อย่างช้า ๆ


Salad – ความสดชื่นในมิติร่วมสมัย
Beef ‘Yum’ Baked Tomato จานนี้คือการตีความ “ยำไทย” ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เนื้อวัวนุ่มกำลังดีถูกหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ย่างไฟเบาๆจนหอม เสิร์ฟคู่กับสลัดมะเขือเทศอบจนหวานฉ่ำ กลายเป็นการผสมผสานที่ทั้งสดชื่นและทรงพลัง ความเปรี้ยวเผ็ดของน้ำยำถูกร้อยเรียงอย่างพอดี ไม่รุนแรงเกินไปแต่ยังคงความสนุกที่ทำให้ลิ้นตื่นตัว ทุกองค์ประกอบในจานทำให้เรายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว


Starter – ความสดจากทะเลเคียงคู่ป่าเขา
Seabass ‘Sam Ros’ with Edible Fern Tempura เนื้อปลากะพงที่สดหวานถูกปรุงรสสามรสแบบไทย หวาน เค็ม เปรี้ยว ที่กลมกล่อมลงตัวในคำเดียว สิ่งที่ทำให้จานนี้พิเศษยิ่งขึ้นคือการจับคู่กับยอดผักกูดสดจากป่าที่ถูกชุบแป้งทอดจนกรอบเบา เมื่อกัดเข้าไปจะได้ทั้งความกรอบและกลิ่นหอมเขียวสดตามธรรมชาติ ตัดกับความนุ่มแน่นของปลากะพงอย่างน่าประทับใจ รสชาติที่ได้คือทั้งคุ้นเคยและใหม่ไปพร้อมกัน

Curry – ความหรูหราในรูปแบบไทยแท้
Phuket Lobster ‘Hor Mok’ เมนูห่อหมกถูกยกระดับขึ้นมาอย่างสง่างาม ล็อบสเตอร์สดจากภูเก็ตเนื้อหวานฉ่ำถูกนำมาผสมกับเครื่องแกงไทยเข้มข้น รสชาติที่ได้คือความหอมมันของกะทิ ผสานกับกลิ่นสมุนไพรที่อบอวลและเผ็ดร้อนเล็กน้อย เนื้อสัมผัสของล็อบสเตอร์ยังคงเด่นชัด เคี้ยวแล้วหวานนุ่มละมุน เป็นจานที่บ่งบอกได้ชัดว่าความเป็นไทยสามารถหรูหราและร่วมสมัยได้ในเวลาเดียวกัน

Meat – ความทรงพลังที่ลงตัว
‘Pa-Lo’ Smoked Duck and Duck Liver with Baked Jasmine Rice นี่คือการตีความใหม่ของ “พะโล้” จานที่คุ้นเคยของทุกบ้าน แต่ถูกนำเสนออย่างหรูหรา เป็ดรมควันเนื้อนุ่มกำลังดี มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของควันไฟที่ซึมเข้าไปถึงเนื้อใน เสริมด้วยตับเป็ดที่มันละมุนและเนียนนุ่ม รสเข้มข้นแต่ไม่เลี่ยน ทุกอย่างถูกเสิร์ฟคู่กับข้าวหอมมะลิอบที่อุ่นนุ่ม กลายเป็นจานที่ให้ความรู้สึกหนักแน่นและมั่นคง เหมือน “หัวใจหลัก” ของทั้งมื้อ


Surprise – คำที่ไม่มีใครคาดคิด
Amphawa Coconut Ice Cream with Hua Hin Caviar ใครจะคิดว่าไอศกรีมมะพร้าวแบบไทย ๆ จะจับคู่กับคาเวียร์ได้อย่างลงตัว ไอศกรีมมะพร้าวหอมมัน ให้ความสดชื่นละมุนในปาก เมื่อเจอกับคาเวียร์ที่เค็มนุ่มเป็นประกาย กลับกลายเป็นความกลมกลืนที่ทำให้ยิ้มได้ทันที จานนี้เหมือนการเล่นสนุกของเชฟ ที่ทิ้งความเซอร์ไพรส์และความสุขเล็ก ๆ ไว้ให้เรา


Sweet – ความอ่อนหวานแห่งดอกบัว
White Lotus ของหวานที่งดงามประหนึ่งงานศิลป์ กลีบบัวสีขาวถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ขนมหวานที่ทั้งละเมียดและเบาสบาย รสชาติหวานนวลไม่จัดจ้าน แต่ทิ้งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกบัวไว้ในลมหายใจหลังคำสุดท้าย ความงามของธรรมชาติถูกย่อไว้ในจานเดียว ทำให้มื้อค่ำนี้ปิดฉากลงอย่างอ่อนโยน

Petit Four – บทส่งท้ายที่ละมุนใจ
คำเล็ก ๆ ที่เสิร์ฟมาเป็นการอำลา แต่อัดแน่นด้วยรายละเอียด ความลุ้นให้เล่นสนุก ผสมผสานความหวานมันกลมกล่อมเหมือนการเขียนประโยคสุดท้ายของหนังสือเล่มโปรด จิบกับชาที่เสิร์ฟเคียงกัน ก็เหมือนการก้าวออกจากห้องอาหารด้วยรอยยิ้ม และความทรงจำที่อบอุ่น




Zero-Proof Pairing Journey
สิ่งหนึ่งที่ทำให้มื้อค่ำนี้พิเศษกว่าที่เคยคือการได้สัมผัส Zero-Proof Pairing Journey การจับคู่เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้เข้ากับทุกคอร์สของ Whispers of the Land แต่ละแก้วใช้วัตถุดิบไทยเป็นหัวใจหลัก ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ทั้งน่าทึ่งและงดงามไม่แพ้ไวน์
Pink Whisper
คู่กับ: ‘Kaeng Hed’ Wild Mushroom Soup
แก้วแรกคือ Pink Whisper ที่ใช้ ชมพู่ (Rose Apple) มาเป็นพระเอก กลายเป็นเครื่องดื่มใสสะอาด สีชมพูอ่อนละมุน รสชาติหวานอมเปรี้ยวเบา ๆ ของชมพู่ทำให้ซุปเห็ดที่เข้มข้นกลายเป็นรสชาติที่ละมุนขึ้น ความหอมเย็นสดชื่นช่วยล้างความหนักจากซุปได้อย่างพอดี จิบแล้วเหมือนลมหายใจแรกของเช้าวันใหม่

Leaf Me Palm
คู่กับ: Seabass ‘Sam Ros’ with Edible Fern Tempura
ถัดมาคือ Leaf Me Palm ที่ได้แรงบันดาลใจจากป่าใต้ของไทย ใช้ ลูกตาลอ่อน (Toddy Palm) ผสมกับ ใบเตย ชงเป็นชาที่หอมและนุ่ม กลิ่นใบเตยที่ลอยขึ้นมาพร้อมความหวานอ่อนของลูกตาล ทำให้จานปลากับผักกูดทอดมีมิติสดชื่นขึ้น ความหอมสมุนไพรไทยที่ผ่อนคลายทำให้คำนี้ลงตัวทั้งรสและอารมณ์

Silken
คู่กับ: Phuket Lobster ‘Hor Mok’
จุดไฮไลต์อีกแก้วคือ Silken เครื่องดื่มที่ซับซ้อนที่สุดในเซ็ตนี้ ใช้ชาอู่หลงจากเชียงรายหมักเย็น 24 ชั่วโมง ผสมกับดอกหอมหมื่นลี้ (Osmanthus) และแต่งรสด้วยขมิ้นและน้ำผึ้งราชบุรี ผลลัพธ์คือกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ที่ซ่อนความเผ็ดอุ่นจากขมิ้นและความหวานละมุนจากน้ำผึ้ง เมื่อนำมาจับคู่กับห่อหมกล็อบสเตอร์ มันช่วยยกระดับสมุนไพรในแกงให้กลมกล่อมและไม่หนักจนเกินไป

The Garnet
คู่กับ: ‘Pa-Lo’ Smoked Duck and Duck Liver with Baked Jasmine Rice
เครื่องดื่มแก้วนี้ทำจาก คอมบูชาโฮมเมด ที่ใช้ลูกพุทราไทย (Jujube) และใบหม่อนจากเชียงรายหมักนานถึง 7 วัน จนได้รสเปรี้ยวละมุนและฝาดเล็กน้อย ความกลมกล่อมแบบฟังก์กี้นิด ๆ นี้เข้ากันได้ดีกับความมันและความเข้มของตับเป็ด รวมถึงความหอมรมควันของเนื้อเป็ด เป็นการจับคู่ที่ดึงศักยภาพของกันและกันออกมาอย่างเต็มที่

The Farm
คู่กับ: ของหวาน White Lotus
ปิดท้ายด้วย The Farm เครื่องดื่มที่เหมือนการย้อนเวลากลับไปยังฤดูเก็บเกี่ยวในชนบท ใช้ น้ำนมข้าวโพด ผสมกับ สับปะรดภูเก็ต, เนย และ น้ำมะนาวสด ได้รสชาติที่ครีมมี หอมหวานจากข้าวโพด ตัดด้วยเปรี้ยวสดชื่นจากมะนาวและผลไม้เมืองร้อน จิบแล้วให้ความรู้สึกโอบกอดอุ่น ๆ แต่ก็สดชื่นในเวลาเดียวกัน เมื่อจับคู่กับของหวานดอกบัว ทำให้รสชาติทั้งหมดปิดฉากลงอย่างกลมกล่อม งดงาม

การเดินทางของเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ครั้งนี้ทำให้เราตระหนักว่า “Fine dining tastes just as amazing, even without alcohol.” ทุกแก้วคือการเล่าเรื่องราวของวัตถุดิบไทยในรูปแบบใหม่ที่ยังคงความซื่อสัตย์ต่อรสชาติ และช่วยยกระดับอาหารแต่ละคอร์สได้อย่างสมบูรณ์
Whispers of the Land เป็นการเดินทางที่เล่าเรื่องราวของวัตถุดิบไทยผ่านมุมของของความร่วมสมัย ทุกเมนูถูกออกแบบมาให้มีทั้งความประณีตและความจริงใจ เป็นไฟน์ไดนิ่งที่ “สงบ เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง”
ราคาและรายละเอียดคอร์สเมนู
สำหรับผู้ที่อยากสัมผัส Whispers of the Land สามารถเลือกประสบการณ์ได้ทั้งช่วงกลางวันและมื้อค่ำ โดยแต่ละช่วงถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน
🍴 มื้อกลางวัน (Lunch | 12:00 – 15:00)
- Set Lunch 3-sequence ราคา THB 2,200++ ต่อท่าน – คอร์สที่เหมาะสำหรับการสัมผัสกลิ่นอายของ Whispers of the Land ในเวลาอันกระชับ
- Journeys: Root 5-sequence ราคา THB 3,600++ ต่อท่าน – คอร์สที่พาทุกคนเดินทางผ่านรสชาติและความทรงจำในแบบไทยโมเดิร์นอย่างครบถ้วน
- Journeys: Harvest 7-sequence ราคา THB 4,600++ ต่อท่าน – ประสบการณ์เต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสเรื่องราวทุกบทของเมนูนี้อย่างสมบูรณ์
🌙 มื้อค่ำ (Dinner | 18:00 – 24:00)
- Journeys: Root 5-sequence ราคา THB 3,600++ ต่อท่าน
- Journeys: Harvest 7-sequence ราคา THB 4,600++ ต่อท่าน
มื้อค่ำเหมาะสำหรับการใช้เวลาอย่างละเมียดละไมในบรรยากาศที่หรูหรา ให้คุณดื่มด่ำกับทุกจานได้โดยไม่ต้องรีบเร่ง
Sra Bua by Kiin Kiin
โทร: +66 (0)2 162 9000
อีเมล: [email protected]