รู้ไหมว่า…เราสามารถยกระดับการทานชีสให้มีอรรถรสมากยิ่งขึ้นด้วยการทานแพริ่งคู่กับชาที่เข้ากัน
การจับคู่ชากับชีสเข้าด้วยกันเปรียบดั่งงานวิวาห์มิติใหม่ที่ไร้ซึ่งขีดจำกัด ชีสและชาต่างมีความฝาด ความมัน รสเค็ม รสหวาน ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการจับคู่ชากับชีส ก็ไม่ต่างจากการจับคู่ไวน์กับอาหาร
โซทราเวลเลอร์มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรม “แนะนำการจิบชาแพริ่งกับชีสฝรั่งเศส” ผ่านการไลฟ์สดอินสตาแกรม Europe, home of cheeseโดยมี ลิซ่า อลิษา ดอว์สัน ผู้ครองตำแหน่งรองชนะเลิศจากรายการมาสเตอร์เชฟ ซีซั่น 1 เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมชีสกูรูชาวฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง ฟร็องซัว โรบิน แชมป์ช่างฝีมืออาหารยอดเยี่ยมแห่งประเทศฝรั่งเศส-ผู้เชี่ยวชาญด้านชีส แห่งปี 2011 และ เคนเนธ ริมดาห์ล เจ้าของชามอนซูน (Monsoon) แบรนด์ชาชั้นนำของไทยจากจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมกันแชร์ความรู้การเลือกชีสและชาทานคู่กัน เพื่อเปิดมิติใหม่ของการทานชีสให้เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น

แท้จริงแล้วชีสฝรั่งเศสมีให้เลือกทานมากกว่า 1,200 ชนิด กิจกรรมในครั้งนี้ทางผู้จัดได้เลือกชีสยอดนิยมและหาซื้อได้ในประเทศไทยมา 5 ชนิดให้ทุกคนได้ลองเปิดประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน

ชีสตัวแรกที่เราได้ลิ้มรสกันคือชีส กองเต้ (Comté) ชีสกึ่งแข็งที่มีแหล่งกำเนิดจากแคว้นฟร็องซ์-กองเต ประเทศฝรั่งเศส กลิ่นของชีสจะมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการบ่มชีส แต่สุดท้ายกลิ่นที่เด่นชัดคือกลิ่นเนยละลายหอมหวาน กลิ่นดอกไม้แห้งอ่อนๆ กว่าจะได้ชีสกองเต้ต้องใช้นมวัวถึง 500 ลิตรต่อชีสน้ำหนัก 40 กิโลกรัม เนื้อสัมผัสชีสจะมีความเหนียวแน่น เมื่อทานคู่กับชาไบโอไดเวอซี (Biodiversi) ชาเขียวบนที่สูงจากจังหวัดเชียงราย ที่มีกลิ่นหญ้าอ่อนและกลิ่นรมควัน พร้อมกับกลิ่นใบเตยและดอกคาโมไมล์ ช่วยเสริมรสสัมผัสของชีสกองเต้ให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

ถัดมาเป็นชีส กาม็องแบร์ (Camembert) ชีสที่ให้รสชาติครีมคล้ายโยเกิร์ตและมีความอ่อนโยนของเนื้อสัมผัส มีแหล่งกำเนิดจากแคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส หากทานคู่กับชาจังเกิล แบล็ค (Jungle Black) ที่ให้กลิ่นเอกลักษณ์ของชาดำผสมผสานกลิ่นอายดินและถั่ว ช่วยเสริมให้ชีสกาม็องแบร์เผยตัวตนความเข้มข้นที่ซ่อนเร้นอยู่ให้ออกมาได้อย่างโดดเด่น

ต่อด้วยชีส แซงต์ โปแลง (Saint Paulin) ชีสกึ่งนุ่มที่มีรสครีมเข้มข้นและเนื้อเนียน แหล่งกำเนิดมาจากแคว้นเบรอตาญ ประเทศฝรั่งเศส มีความครีมมี่ มิลค์กี้ และมีรสเค็มเล็กๆ ทานคู่กับชาจังเกิ้ลอู่หลง (Jungle) ที่ให้กลิ่นน้ำผึ้ง ลูกพีช รสชาติกลมกล่อมเป็นการจับคู่ที่ผ่อนคลายและดีต่อสุขภาพสุดๆ

ชีส ปงต์ – เลเวค (Pont-l’Évêque) ชีสที่มีเนื้อครีมคล้ายชีสกาม็องแบร์ (Camembert) ฟร็องซัวพูดติดตลกถึงกลิ่นหอมของชีส ว่าเปรียบเสมือนการเดินเข้าไปในยุ้งข้าวและคอกวัว เมื่อทานคู่กับชาสายรุ้ง (Rainbow) ชาที่มีการผสมผสานของชาดำ อู่หลง ชาเหลือง ชาเขียว และชาขาว พร้อมกลิ่นมะม่วง มะละกอ และดอกมะลิ ผลลัพธ์คือท็อปโน๊ตที่สุดแสนจะละมุน สร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนที่ได้ชิม

ปิดท้ายด้วยชีส เบลอ โดแวร์ญ (Bleu d’Auvergne) ชีสสีครีมงาช้างที่มาพร้อมลายเส้นสีเขียวอมฟ้าที่เกิดจากสปอร์ของราเพริซิลเลียม เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ มีแหล่งกำเนิดจากแคว้นโอแวร์ญ ประเทศฝรั่งเศส เบลอ โดแวร์ญเป็นบลูชีสที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่เข้มข้น มักถูกแนะนำให้ลองทานกับน้ำผึ้งหรือแยม เคนเนธได้แนะนำให้ทานคู่กับชาลานนา ซิลเวอร์ นีดเดิล (Lanna Silver Needle) ชาขาวที่ให้กลิ่นหอมน้ำผึ้งอย่างล้ำลึก สร้างประสบการณ์ที่เข้ากันได้ดีอย่างที่ไม่มีใครนึกถึงมาก่อน

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะรู้จักชีสจากประเทศฝรั่งเศสและลองลิ้มรสชีสคู่ชาด้วยตัวเองกันแล้ว สามารถเรียนรู้เรื่องราวของชีสเพิ่มเติมผ่านอินสตาแกรม Europe, home of cheese พร้อมติดตามกิจกรรมต่างๆที่จะจัดขึ้นอีกในอนาคต หากมีโอกาสคุณจะได้เข้ามาร่วมกิจกรรมดี ๆ เหมือนที่เราเข้าร่วมในครั้งนี้ด้วยตัวคุณเอง