Experience The Unexpected คุณได้ค้นพบอะไรใหม่ๆครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่… เราคิดไม่ออกเลยตอนได้รับเชิญจากโรงแรมเรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา (Renaissance Koh Samui Resort and Spa) ให้มาร่วมงาน ‘Global Day Of Discovery’ งานอีเว้นท์สำคัญที่จัดขึ้นพร้อมกัน 160 อีเว้นท์ใน 35 ประเทศทั่วโลก ที่สำคัญจัดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น ซึ่งครั้งนี้เป็นปีที่ 7 แล้ว
คอนเซ็ปต์ของ Global Day Of Discovery คือ “Go offscript” ออกไปทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ไปค้นพบมุมต่างๆทั่วโลกที่หาไม่เจอในไกด์บุ้ค นี่ถ้ามาเอง เราก็ขอนั่งรถแอร์เย็นๆอย่างเดียว ไม่มีทางได้เห็นความน่ารักของคุณน้าปั๊มน้ำมันสมุย ที่วิ่งปรู๊ดปร๊าดทอนเงิน พร้อมแหลงใต้โฉงเฉงกับลุงคนขับสองแถว พวกเรานั่งลมโชยมาเรื่อยๆ ไม่รู้ตัวเลยว่าวันนี้จะได้เจอกับอะไรกันบ้าง จุดแรกที่มาถึงก็เล่นเอาตะลึงว้าวกันไปทั้งสี่คันรถเลย
ทางโรงแรมแอบมาจัดชุดปิคนิครอไว้ในสวนมะพร้าวนอกตัวเมือง มีเสื่อ มีร่มขาวกางเตรียมไว้พร้อม มีความชิค ถูกใจมากๆ
ไฮไลท์ทีเด็ดคือฝูงควายที่ยืนเคี้ยวหญ้ากระจายตัวประปรายอยู่ด้านหลัง
ทั้งหมดมัน น่ารัก เซอร์เรียลจนไม่อยากจะเชื่อสายตา ถึงตรงนี้พวกเราทั้งไทย ฝรั่ง เอนหลังนั่งนอน ห่อเมี่ยงคำ ชิมผัดไทยที่ทีมงานยืนผัดเตาถ่านร้อนๆตรงนั้นเลย เสริฟมาในกลีบหัวปลี เก๋ไปอีก เรารู้สึก ‘Wow’ ในความตั้งใจของทีมงานเรอเนสซองต์ ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ
‘All About Coconut’
การ ‘Discovery’ ของพวกเราทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ที่จุดถัดไปคือ บ้านมะพร้าว หรือ ‘Coconut Museum’ ที่เปิดโอกาสให้พวกเราเดินเข้ามาในบ้านกลางสวนมะพร้าว ที่เจ้าของบ้านกินอยู่หลับนอนทำงานตรงนี้จริงๆ และยังสละเวลามาให้ความรู้กับพวกเรา วันนี้เพิ่งจะรู้ว่ามะพร้าวหนึ่งลูกมีคุณประโยชน์ยิ่งกว่า Swiss Army Knife เป็นร้อยๆเท่า ภูมิปัญญาชาวบ้านไทยสามารถพลิกแพลงมะพร้าวลูกเดียวใช้ได้ตั้งแต่ เครื่องราง เครื่องดนตรี เครื่องนวดเท้า และอื่นๆอีกมากมาย
ที่สำคัญคือตอนเดินเข้าไปในโรงกลั่นน้ำมันมะพร้าว คุณพี่เจ้าของบ้านเล่าให้ฟังว่าต้องใช้ฟิลเตอร์กระดาษบางพิเศษ อดทนกรองแล้วกรองอีกเป็นสิบรอบ เพื่อให้ได้น้ำมันมะพร้าวที่ใสบริสุทธิ์คุณภาพส่งออกจริงๆ
เราสังเกตเห็นสายตาที่พี่เค้ามองถัง ‘น้ำมันพร้าว’ ลูกใหญ่ พร้อมส่งออกไปเกาหลีคืนนี้ มันฉายความภูมิใจ มันมีความสุขกับรอยยิ้มอยู่ในนั้นสิ่งต่างๆที่เราเคยเห็นเป็นโชว์ดึงดูดนักท่องเที่ยว นาทีนั้นเกิดความเข้าใจว่า แท้จริงแล้วมันคือชีวิตจริงของเค้า คือวิถีทำมาหาเลี้ยงครอบครัว และที่สำคัญเราก็กำลังเดินอยู่ในบ้านของเค้าไม่ใช่เหรอ
ที่นี่พวกเราต้องลงมือนวดแป้ง ช่วยกันทำ ‘ขนมโค’ซึ่งเป็นขนมท้องถิ่นของสมุย ซึ่งเกิดมาก็เพิ่งจะรู้จักวันนี้เอง ครัวขนมของเราวันนี้มีความนานาชาติไม่แพ้การแข่งฟุตบอลโลก เลยทีเดียว คุณลุงปีเตอร์ แขกชาวเยอรมันท่านหนึ่ง จับคู่นวดแป้งกับน้องซูกี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานชาวดัชท์ของเรอเนสซองต์ ทีมชาติไทยก็ส่งตัวแทนเข้าร่วมกิจกรรมปั้นขนมด้วย
ผลที่ออกมามีความสูสีกันมาก ขนมโคเสร็จแล้ว นิ่มๆ ร้อนๆ กัดไปแล้ว ‘น้ำตาลพร้าว’ ข้างในละลายในปาก เข้ากับเนื้อมะพร้าวหอมมันที่คลุกเคล้าอยู่รอบๆ คิดว่าทานที่ไหนก็คงไม่อร่อยเท่าทานร้อนๆที่บ้านกลางสวนมะพร้าววันนี้อีกแล้ว
Navigator…The personalized experience
ความซอกแซกในการเดินเข้าเดินออกบ้านชาวสมุยในวันนี้ยังไม่จบง่ายๆ เสน่ห์ของ Global Day Of Discoveryคือ การลงพื้นที่จริงเพื่อเข้าใจจิตวิญญานท้องถิ่นตรงนั้น ความเป็นสมุยคืออะไร อะไรมีความหมายกับคนที่นี่
วันนี้ทั้งวันมีผู้ชายร่างสันทัดคนนึงโหนท้ายรถสองแถวพวกเราอยู่ คาดผ้าขาวม้า ผิวเข้มคร้ามแดดทะเล มีสำเนียงสมุย-สวีดิชเฉพาะตัวมาก ใครอยากเจอต้องมาถามหาคุณโอ๊ต Navigator หนุ่มหล่อของเรอเนสซองต์ สมุย คุณโอ๊ตเป็นชาวเกาะสมุยโดยกำเนิด แหลงใต้เดินเบิกทางพาพวกเราเข้าบ้านนู้นออกบ้านนี้ แล้วนี่ก็กำลังเดินทะลุหลังบ้านไปโรงทำไม้มะพร้าว ในนั้นมีขี้เลื่อยกองใหญ่ แปลกดีเทกเจอร์ไม้แข็งๆแต่เดินย่ำกองขี้เลื่อยกลับนิ่มยวบเท้า
ในนั้นมีพี่ช่างไม้ผู้ชายคนนึง ยืนกลึงไม้มะพร้าวท่อนประมาณต้นขา ก้มหน้าก้มตาทำงานเผลอแป้บเดียว ไม้ท่อนขาเมื่อกี้นี้กลายร่างเป็นแก้วน้ำทรงสวยเรียบร้อยแล้วพวกเราเคยเห็นแก้วไม้ที่เนื้อเป็นลายขีดๆ ตามแผงขายไนท์บาร์ซาร์ หรือแหล่งนักท่องเที่ยวทั่วไปมั้ย? นั่นแหละ ต้นกำเนิดเค้าอาจจะมาจากสวนใดสวนหนึ่งในเกาะสมุยก็ได้นะ
งานของคุณโอ๊ตคือ ช่วยดูแล Personalized Experience จัดทริปให้ตรงตามความต้องการส่วนตัวแขกแต่ละท่านที่ไม่ซ้ำกันเลย เราคิดว่าNavigator ต่างจาก Concierge ตรงความ Personalization และความรู้พื้นที่จริงของคนท้องถิ่น อีกสิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ชัดมากในตัวคุณโอ๊ต คือ Passion และความรักเกาะสมุยจริงๆ ใครจะเล่าเรื่องสมุยได้ดีเท่าคนที่มี Nostalgic Sense Of Belonging ล่ะ
บอกร่ำลาบ้านช่างไม้เสร็จก็โดดขึ้นสองแถวกันต่อ ครั้งนี้ทริปเริ่มเร้าใจกว่าเดิม เส้นทางก็คดเคี้ยวขึ้น เรานั่งตัวเหวี่ยงกันไปมา มันมีความกระเด้งกระดอนคล้ายตกหลุมอากาศเพราะคุณลุงสองแถวพาเราขึ้นเขา!!!
เราเดินไต่ขึ้นร้านอาหารที่ Giant Summit มา พบทีมงานเรอเนสซองต์เตรียม Ritual Bar ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการผ่อนคลายหลังเลิกงานไว้รอแล้ว
Giant Summit จุดชมวิวสวยบนยอดเขาคือจุดสุดท้ายที่Navigatorพาเรามา สวยคุ้มค่าความพยายามขึ้นมาจริงๆ อากาศเย็นสบาย วิวทะเลเป็นประกายแดดระยิบ ภาพทิวมะพร้าวยาวสุดลูกหูลูกตา ปรากฏมาเตือนความทรงจำว่า เกาะสมุยเคยเต็มไปด้วยมะพร้าวทั้งเกาะ จุดนี้สูงจนสามารถมองเลยไปเห็นเกาะแตน และฝั่งแผ่นดินทางสุราษฏร์ธานีได้เลย
เย็นนี้มีนางมโนราห์ตัวน้อยๆขึ้นมาแสดงการรำพื้นบ้านให้ดูด้วย น้องๆนักเรียนตั้งใจรำมากจนเรียกเสียงเชียร์จากผู้ชมไปได้มากทีเดียว
Global Day Of Discovery ปิดวันได้สวยมาก ที่ TawaNN Signature Restaurant ที่นี่ โต๊ะอาหารสวยจัดบนระเบียงเปิดโล่ง ชมวิวทะเล มองเห็นขอบฟ้าได้สุดสายตา เรามาทันชมแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ก่อนตกดินพอดี มื้อเย็นนี้เป็นอาหารใต้หรอยๆที่ทราบมาว่าทางทีมเชฟช่วยกันวางแผนกันล่วงหน้าอย่างจริงจังมากว่าจะเสริฟอะไรดี
เชฟอุ้ยเชฟต้นครัว (Head Chef)ใจดีเล่าให้ฟังว่าตื่นไปเดินตลาดเช้า แล้วได้ของหวานเป็นพวงมะไฟป่าหวานๆและเงาะนาสารเนื้อแน่นกรอบกลับมาฝากพวกเราด้วย ก่อนนอนคืนนั้น เรานั่งถามตัวเองนะว่า วันนี้เราได้ค้นหาอะไรจริงจังบ้าง รถสองแถวเราก็เคยขึ้น ทะเลเราก็เคยมา ครั้งนี้มีอะไรที่แตกต่างไป…
Global Day Of Discovery ได้เปิดหัวใจคนที่เคยเป็นนักเดินทางIgnoranceให้กลับมาแคร์สิ่งต่างๆ และคนรอบตัวมากกว่าเดิม หนึ่งวันที่พิเศษนี้ทำให้เราอยากเดินทางด้วยความรู้สึก respect พื้นที่นั้นมากขึ้น มากกว่าแค่มาตักตวงความสุข มากินมาใช้แค่สองสามคืนแล้วจากไปโดยมองไม่เห็นคุณค่า และความหมายอื่นๆที่อยู่ตรงนั้น คุณโอ๊ตบอกว่า ‘สมุยเป็นบ้านของเรา แขกไปใครมาก็อยากพาเค้าไปเที่ยวบ้านที่เรารัก’ ทำให้เราอยากมาเที่ยวบ้านเค้าอย่างใส่ใจมากกว่านี้ Global Day Of Discovery ทำให้เกาะสมุยที่เคยมาแต่ไม่เคยรู้จัก กลายเป็นที่ๆเรารักและผูกพันขึ้นมา เราค้นพบอะไรใหม่ๆได้ทุกวัน แม้ในที่ๆเคยมาแล้ว