ชวนผู้อ่าน SOtraveler.com มาลิ้มลอง 8 เมนูสุดพิเศษของห้องอาหารทิพย์ธารา โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ที่นำข้าวพันธุ์ต่างๆ จาก 8 จังหวัดในประเทศไทย ได้แก่ เชียงใหม่, ยโสธร, พัทลุง, เชียงราย, สุรินทร์, ราชบุรี, ตาก และร้อยเอ็ด รังสรรค์เป็นเป็นเมนูรูปแบบต่างๆ โดย ‘เชฟมนนิภา รุ่งทอง’ หัวหน้าเชฟของห้องอาหารทิพย์ธารา อีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่แห่งมื้ออาหารอันยอดเยี่ยม ที่คุณจะรู้สึกประทับใจในทุกคำ
เมื่อเอ่ยถึงเมนูข้าว หลายคนอาจจะนึกถึงการเสิร์ฟเมนูต่างๆ เช่น ผัด ต้ม แกง คู่กับข้าวสวย ภาพแรกที่เรานึกขึ้นได้โดยยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดของ Thai Rice Journey ก็เป็นแบบนี้เช่นกัน แต่พอได้เห็นรายละเอียดแต่ละเมนูแล้ว ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มาลิ้มลอง เพราะแต่ละเมนูนำเสนอได้อย่างน่ารับประทาน ซ่อนวัตถุดิบหลักอันได้แก่ข้าวพันธุ์ต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ อาทิเช่น ข้าวตังยำผลไม้ส้มซ่า, ขนมครกข้าวไข่กุ้ง หรือ บัวลอยข้าวกล่ำ เป็นต้น มาเริ่มทำความรู้จักและสัมผัสความอร่อยของ Thai Rice Journey พร้อมกันเลยดีกว่า
เริ่มต้นกันที่เมนูแรก ‘ข้าวตังยำผลไม้ส้มซ่า’ ข้าวเกรียบกรุบกรอบสีม่วงก่ำ ที่ทำมาจากข้าวบือกีซู ข้าวเมล็ดสั้นที่ปลูกมาหลายชั่วอายุคน ของชนพื้นเมืองบนภูเขา จังหวัดเชียงใหม่ เสิร์ฟให้รับประทานคู่กับยำผลไม้ส้มซ่า ให้รสชาติที่สดชื่นพร้อมกระตุ้นความอยากให้กับเมนูถัดไป

ข้าวบือกีซู จากจังหวัดเชียงใหม่
ต่อด้วย ‘ขนมครกข้าวไข่กุ้ง’ ขนมครกที่ทำมาจากข้าวกล้องแดง จากจังหวัดยโสธร ทำเสิร์ฟในรูปแบบแพนเค้กพร้อมส่วนผสมของเนื้อมะพร้าวเพิ่มความหอมมัน ท็อปด้วยไข่กุ้งและเจลมะกรูดเข้ากับรสนุ่มนวลของแพนเค้กขนมครกได้เป็นอย่างดี

ข้าวกล้องแดง จากจังหวัดยโสธร
ถัดมาคือ ‘เมี่ยงข้าวพองดอกไม้เนื้อปู’ เมี่ยงข้าวพองที่ทำจากข้าวสังข์หยดจากจังหวัดพัทลุง ข้าวพองเชฟทอดออกมาได้กรอบและไม่อมน้ำมัน ท็อปด้วยเนื้อปูชิ้นโต ดอกไม้ทอดกรอบ ทานคู่กับซอสมะขามกลิ่นหอม เพิ่มความเข้มข้นอร่อยติดใจ

ข้าวซ้อมมือสังข์หยด จากจังหวัดพัทลุง
มาถึงเมนู ‘ซุปข้าวเบือหมูตุ๋น’ ซุปสไตล์อีสานปรุงจากข้าวเหนียวเขี้ยวงู จากจังหวัดเชียงราย เชฟใช้สันคอหมูตุ๋น ปรุงกับน้ำสต๊อกพร้อมใส่ข้าวเบือที่ทำจากข้าวเหนียวเขี้ยวงู เพิ่มกลิ่นหอมด้วยผักวอเตอร์เครสทดแทนใบย่านาง ให้รสสัมผัสหอมหวาน อร่อยไปอีกแบบ

ข้าวเหนียวเขี้ยวงู จากจังหวัดเชียงราย
ต่อมาคือเมนูจานหลักเมนูแรก ‘ข้าวกล้องเนื้อสวรรค์’ เชฟใช้เนื้อสันนอกจากออสเตรเลียย่างไฟพร้อมปรุงรสหวานมันเค็ม โรยด้วยสมุนไพรไทย และผักแพวทอดกรอบ เสริมความอร่อยกันได้อย่างดีอย่างเหลือเชื่อ ทานคู่กับข้าวกล้องพลับพลึง จากจังหวัดสุรินทร์ ข้าวสายพันธุ์ที่โตเร็ว บางครั้งเรียกว่า ข้าวน้ำนม เพิ่มความอิ่มท้องได้ดี

ข้าวกล้องพลับพลึง จากจังหวัดสุรินทร์
ต่อด้วยจานหลักเมนูที่สอง ‘แกงข้าวพันใบชะพลูย่าง กุ้งใหญ่’ กุ้งลายเสือเนื้อสดหวานย่าง เสิร์ฟควบคู่กับซอสพริกแกงใบชะพลู รสชาติเข้มข้น ทานคู่กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ จากจังหวัดราชบุรี จัดจ้านแต่กลมกล่อม ยิ่งทานยิ่งติดใจจนวางช้อนไม่ลง

ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จากจังหวัดราชบุรี
มาถึงเมนูของหวาน ‘บัวลอยข้าวกล่ำ ไอศกรีมกะทิ’ บัวลอยที่ทำมาจากข้าวก่ำลืมผัว จากจังหวัดเพชรบูรณ์ ข้าวสายพันธุ์ระดับตำนานที่มีเรื่องเล่าในความอร่อย กระทั่งภรรยาทำกินแล้วกินหมดจนไม่เหลือไว้ให้สามีเป็นที่มาของข้าวลืมสามี หรือข้าวลืมผัวนั่นเอง

ข้าวก่ำลืมผัว จากจังหวัดเพชรบูรณ์
ขนมหวานปิดท้ายมื้ออาหารได้แก่ เปียกปูนข้าว ขนมเปีกกปูนสไตล์พุดดิ้ง ทำจากข้าวหอมมะลิที่มีกลิ่นหอมอย่างน่าอัศจรรย์ จากทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด ส่งท้ายมื้อพิเศษมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์

ข้าวหอมมะลิ จากทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด
ห้องอาหาร “ทิพย์ธารา” โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18:00 น. – 22:30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่เบอร์โทร 02-020-6969