การกลับมาเยือนกรุงเทพฯ อีกครั้งของ เชฟอเล็กซ์ ดิลลิ่ง (Alex Dilling) พร้อมการเปิดตัวห้องอาหารใหม่ Alex Dilling at Lord Jim’s ภายในห้องอาหารลอร์ด จิมส์ อันเป็นตำนานของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (Mandarin Oriental, Bangkok) ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการอาหารในเมืองไทยอีกครั้ง ความพิเศษในครั้งนี้อยู่ที่การปรับโฉมบรรยากาศมื้อค่ำให้มีความผ่อนคลายและเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานระดับโลกทั้งในแง่ของวัตถุดิบ เทคนิคการปรุง และศิลปะการจัดจานที่โดดเด่นไม่เหมือนใครไว้

เชฟอเล็กซ์ ดิลลิ่ง (Alex Dilling) เจ้าของรางวัลมิชลินสองดาว ผู้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ นำประสบการณ์จากห้องอาหารชั้นนำในนิวยอร์ก ลอนดอน และล่าสุดกับความสำเร็จที่ Le Normandie ในปีที่ผ่านมา มารังสรรค์บทใหม่ที่ลอร์ด จิมส์ พร้อมทีมเชฟมืออาชีพ โดยเฉพาะเชฟจอร์จ เคย์ (George Kay) ผู้มีบทบาทสำคัญในการคว้าดาวมิชลินร่วมกับเขาในลอนดอน ซึ่งได้เดินทางมาร่วมเสริมทัพอย่างใกล้ชิดในกรุงเทพฯ

แนวคิดของเมนูได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบโพรวองซ์ (Provençal) ในฝรั่งเศสตอนใต้ ผสานกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียนและความร่วมสมัยอย่างมีชั้นเชิง โดยอาหารแต่ละจานถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการแชร์บนโต๊ะอาหาร เสริมสร้างบรรยากาศแห่งมิตรภาพ การพบปะสังสรรค์ของครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนในแบบที่อบอุ่น เป็นธรรมชาติ พร้อมเพิ่มอรรถรสด้วยเพลย์ลิสต์ที่เลือกสรรมาอย่างดีเพื่อให้ทุกค่ำคืนเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย

ค่ำคืนเริ่มต้นด้วยเมนู Amuse-bouche ที่เสมือนเป็นประตูสู่ประสบการณ์อันแสนประณีต เชฟจัดเตรียมมาให้ทั้งหมด 3 คำ แต่ละคำมีเอกลักษณ์และนำเสนอรสชาติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เริ่มจาก Beef Tartare Toast ที่เสิร์ฟทันทีตั้งแต่แขกยังไม่ถึงโต๊ะ เป็นคำต้อนรับแสนพิเศษที่วางบนขนมปังบาแก็ตต์ย่างกรอบ หน้าตัดแต่งด้วยอูนิ ไข่หอยเม่นสด คาเวียร์ และผักชีลาว ตามด้วย Fine de Claire Oysters เสิร์ฟแบบเย็นบนน้ำแข็ง ราดซอสแตงกวาและตกแต่งด้วยดอกไม้กินได้ มอบความสดชื่นและกลิ่นอายแห่งท้องทะเล ปิดท้ายด้วย Mozzarella Barbajuan แป้งกรอบบางไส้ชีสมอสซาเรลล่าทอดร้อน เสิร์ฟกับซอสมะเขือเทศและใบโหระพาทอด ทั้งหมดนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อกระตุ้นประสาทรับรสและนำพาเข้าสู่ค่ำคืนแห่งรสชาติที่น่าจดจำ



ในหมวด To Start & Share เราจะได้ลิ้มลอง House Made Bread Selection อบสดใหม่และ Thin Slices of Noir de Bigorre Ham จากเทือกเขา Pyrenees เสิร์ฟคู่กับ Pâté de Campagne และบริยอชเนื้อนุ่มพร้อมฮันนี่มัสตาร์ด ตามด้วย Organic Vegetable Crudites ผักสดจากฟาร์มของโรงแรม จัดเรียงอย่างประณีตพร้อมซอสซีซาร์สูตรพิเศษ และ Cavatelli Pasta คลุกเคล้ากับ Black Truffle Butter พริกไทยซาราวัก และชีส Pecorino ทุกจานช่วยเปิดบทสนทนาบนโต๊ะอาหารได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสะท้อนถึงความตั้งใจในทุกองค์ประกอบอย่างแท้จริง



จานหลักเริ่มต้นด้วย Beef Fillet เนื้อย่างแบบ “Au Poivre” ที่นุ่มแน่นและสุกในระดับที่พอดี เสิร์ฟคู่กับ Pommes Allumettes มันฝรั่งแท่งทอดกรอบ เพิ่มมิติของสัมผัสในแต่ละคำ ต่อด้วย Duck จาก Maison Burgaud เป็ดคุณภาพเยี่ยมที่ปรุงอย่างแม่นยำ เนื้อเป็ดนุ่มฉ่ำ ตัดรสด้วยเฟนเนลบางเบาและน้ำส้มสายชูลูกแพร์ที่ให้ความเปรี้ยวหวานนวลละมุน


ต่อด้วย Flounder เนื้อปลาสดแน่นกลิ่นหอมจากท้องทะเล เสิร์ฟพร้อมซอส Seaweed & Citrus Beurre Blanc ที่ทั้งหอมและสดชื่น กลมกล่อมอย่างลงตัว ก่อนเข้าสู่เมนูไฮไลท์ที่ทุกโต๊ะไม่ควรพลาดอย่าง Dry Aged Côte de Boeuf (1.2 KG) เนื้อวัวบ่มแห้งย่างจนได้ความสุกและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ราดด้วยเนย Café de Paris เติมความลุ่มลึกด้วย Bone Marrow และซอส Béarnaise เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง From the Farm อย่างหน่อไม้ฝรั่งย่างกับ Anchovy Butter และแฮชบราวน์ทอดด้วยไขมันเป็ดที่กรอบนอกนุ่มใน เติมเต็มมื้อค่ำได้อย่างสมบูรณ์




ของหวานเริ่มต้นด้วย Strawberry Île Flottante มูสเบา ๆ รสละมุน ผสานกลิ่นหอมของเลมอนเวอร์บีน่า เพิ่มความครีมมี่ด้วยกรีกโยเกิร์ต และพิสตาชิโอบดช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัส ต่อด้วย 70% Chocolate ในรูปแบบทาร์ตซูเฟล่เข้มข้น กลิ่นหอมของ XO Cognac ผสานกับไอศกรีมโกโก้นิบได้อย่างลงตัว ช่วยให้ปิดท้ายมื้อค่ำได้อย่างน่าประทับใจ


ตามมาด้วยอีกสองเมนูของหวานที่เปี่ยมด้วยรายละเอียด ได้แก่ Banana Mille Feuille ชั้นแป้งบางกรอบเรียงซ้อนอย่างประณีต สอดไส้ด้วย Banana Rhum Cream และกล้วยคาราเมลรสเข้มข้น และ Vanilla & Jasmine Soufflé ที่อบสดใหม่ หอมกลิ่นวานิลลาจากมาดากัสการ์และความหวานจากมะม่วงน้ำดอกไม้ เสิร์ฟคู่ไอศกรีมมะม่วงเย็นสดชื่น ปิดท้ายด้วย Petit Fours ที่มีทั้งคานาเร่เครื่องเทศกรอบนอกนุ่มใน และคุกกี้ฮาเซลนัทพาลีนที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมอันน่าหลงใหล






Alex Dilling at Lord Jim’s คือบทใหม่ของห้องอาหารลอร์ด จิมส์ ที่หลอมรวมความหรูหรา ความร่วมสมัย และความอบอุ่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ทุกองค์ประกอบตั้งแต่เมนู การจัดจาน ไปจนถึงบรรยากาศ ล้วนถ่ายทอดความตั้งใจและความเชี่ยวชาญของทีมเชฟออกมาได้อย่างงดงาม เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในศิลปะการปรุงอาหารและรายละเอียดอันประณีต มื้อนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ดินเนอร์ หากแต่เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะได้ใช้เวลาอันมีค่าร่วมกัน ผ่านบทสนทนาแห่งรสชาติ ความสุข และความทรงจำที่อบอวลอยู่ในทุกคำ โดยห้องอาหารตั้งอยู่ภายในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (Mandarin Oriental, Bangkok) ให้บริการมื้อค่ำทุกวันศุกร์ถึงวันอังคาร เวลา 18:30 – 22:00 น.
Alex Dilling at Lord Jim’s
- Location: โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (Mandarin Oriental, Bangkok)
- Opening Hours: เปิดบริการวันศุกร์ – วันอังคาร เวลา 18.30 – 22.00น.
- Reservations: 02-659-9000 | [email protected]
- Facebook: MandarinOrientalBangkok
- Instagram: @alexdilling.lordjimsbkk
- Website: https://www.mandarinoriental.com/en/bangkok/chao-phraya-river/dine/alex-dilling-at-lord-jims