ห้องอาหาร เลอ นอร์มังดี (Le Normandie) ณ โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (Mandarin Oriental, Bangkok) ได้รับการพลิกโฉมใหม่ในชื่อ Anne-Sophie Pic at Le Normandie เติมเต็มความหรูหราเหนือกาลเวลาของ Le Grand Dame ห้องอาหารในตำนานที่ได้รับการกล่าวถึงมายาวนาน ถูกตีความใหม่ให้ร่วมสมัยและอบอุ่น พร้อมต้อนรับเชฟหญิงผู้ครองดาวมิชลินมากที่สุดในโลก เพื่อสร้างประสบการณ์การลิ้มรสที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าด้วยกันอย่างน่าจดจำ

เชฟแอนน์-โซฟี พิค (Anne-Sophie Pic) คือนิยามของความกล้าหาญและความประณีตในโลกของ French Gastronomy เธอครอบครองดาวมิชลินมากที่สุดในโลกถึง 10 ดวง ถ่ายทอดฝีมือจากตระกูลเชฟที่มีชื่อเสียงยาวนาน พร้อมสร้างสรรค์การตีความใหม่อย่างอิสระ คำว่าอาหารสำหรับเธอคือภาษาสากลที่ใช้ถ่ายทอดเรื่องราว และในวันนี้ภาษานั้นได้ถูกเล่า ณ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างละเมียดละไมและทรงพลัง

บรรยากาศใหม่ของห้องอาหารได้รับการออกแบบโดย Humbert & Poyet ถ่ายทอดความร่วมสมัยที่อ่อนช้อยและประณีต แฝงด้วยความเป็นกันเองในทุกมิติ รายละเอียดการตกแต่งสะท้อนตัวตนของเชฟ Anne-Sophie Pic ผ่านเสน่ห์แบบ Feminine ที่ละเมียดละไมได้อย่างชัดเจน พร้อมมอบมุมมองแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยังคงความหรูหราเหนือกาลเวลา เหมาะทั้งสำหรับการเฉลิมฉลองและช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน



เชฟแอนน์-โซฟี พิค นำแนวคิด Suffusion หรือการถักทอรสชาติและกลิ่นหอมเข้าด้วยกันอย่างมีชั้นเชิง เปรียบได้กับศิลปะการปรุงน้ำหอม เธอเชื่อว่าการลิ้มรสไม่ควรเป็นเพียงเส้นตรง แต่คือประสบการณ์ที่ค่อย ๆ เปิดเผยรสชาติอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคนิค Infusion การแช่วัตถุดิบเพื่อดึงกลิ่นและรสออกมาอย่างละเมียดละไม Distillation การกลั่นเพื่อเก็บความหอมที่บริสุทธิ์ และ Fermentation การหมักเพื่อสร้างมิติใหม่ ถือว่าเชฟถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากโลกแห่งน้ำหอมสู่จานอาหารได้สมบูรณ์แบบ

การเดินทางครั้งใหม่นี้ยังได้ เชฟทามากิ โคบายาชิ (Chef Tamaki Kobayashi) มาร่วมเป็น Chef de Cuisine เชฟหญิงผู้เปรียบเสมือน “ลูกสาวคนหนึ่ง” ของเชฟแอนน์-โซฟี พิค ร่วมงานกันอย่างใกล้ชิดเกือบ 20 ปี เริ่มจากการเป็น Intern ที่ฝรั่งเศส จนก้าวสู่ตำแหน่ง Head Chef ที่ร้าน 3 ดาวมิชลิน และวันนี้เธอคือผู้สืบทอดตัวจริงในการถ่ายทอดปรัชญาของเชฟแอนน์-โซฟี พิค สู่กรุงเทพฯ ด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่น


SOtraveler มีโอกาสได้ลิ้มลองหลากหลายเมนูอย่าง Hokkaido Sea Urchin หอยเม่นฮอกไกโดสดใหม่ รสสัมผัสเบา ๆ แต่ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นอย่างมีมิติ เสริมความลุ่มลึกด้วยครีมวิสกี้นิกกะ (Nikka Whisky) และถั่วดำคุโรมาเมะ (Kuromame) เคียงด้วยเจลลี่แอปเปิลและซอสแนสเทอร์เชียม (Nasturtium) ที่สร้างสมดุลระหว่างความเข้มข้นและความสดชื่นได้อย่างพอดี


ถัดมาคือจานซิกเนเจอร์อย่าง Les Berlingots ASP พาสต้าทรง Tetrahedral ที่เชฟแอนน์-โซฟี พิค คิดค้นและจดลิขสิทธิ์ขึ้นเอง สอดไส้ด้วยชีสคาเม็มแบร์ (Camembert) จากนอร์มังดี เพื่อเชื่อมโยงกับชื่อของห้องอาหาร เลอ นอร์มังดี (Le Normandie) รสหอมมันเข้มข้น ตัดกับความละมุนของคาโมมายล์และความลึกซึ้งของหญ้าฝรั่น ปิดท้ายด้วยซอสมะเขือเทศเปรี้ยวสด เสิร์ฟคู่ชาหอมอู่หลงและคาโมมายล์ที่เชฟโปรดปราน รสชาติทั้งหมดถูกเรียงร้อยอย่างกลมกลืน เต็มไปด้วยทั้งความสร้างสรรค์และเอกลักษณ์


เมนูต่อมา Brittany Blue Lobster ล็อบสเตอร์บลูจากฝรั่งเศส เนื้อหวานแน่นและฉ่ำ ย่างบนถ่านไม้จนอบอวลด้วยกลิ่นหอม เชฟแอนน์-โซฟี พิค เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดการจับคู่วัตถุดิบซีฟู้ดกับผลไม้แดง เสิร์ฟเคียงซุปดาชิที่ซ่อนรสละมุนของผลไม้แดงและสตรอว์เบอร์รีหมัก เพิ่มความกรุบกรอบด้วยสาหร่ายที่ช่วยเสริมมิติของรสชาติ การผสานระหว่างความหรูหราของท้องทะเลกับความสดใสของผลไม้ได้อย่างกลมกลืน เป็นอีกเมนูที่ทุกคนต่างยกให้เป็นไฮไลท์ของมื้อนี้เลย


Aveyron Lamb คืออีกหนึ่งจานที่ตราตรึงใจ เนื้อแกะจากแคว้นอาเวย์รง (Aveyron) นุ่มละลายในปาก เสิร์ฟคู่ข้าวที่ห่อด้วยใบซากุระและใบมะเดื่อ เพิ่มความซับซ้อนด้วยบอนบอนมัสตาร์ดจีน ข้าวเก็นไมฉะ (Genmaicha) และกลิ่นถั่วตองกา (Tonka) เสริมด้วยบีฟจู (Beef Jus) เข้มข้นที่ช่วยขับรสได้พอดี ถ่ายทอดรสชาติที่ต่อเนื่องจากเมนูก่อนหน้าและสร้างความลึกซึ้งในแต่ละคำ

White Lotus Millefeuille ของหวานปิดท้ายมื้อ เต็มไปด้วยความละมุนและรายละเอียด แป้งมิลเฟยล์บางกรอบเรียงซ้อนสลับกับครีมวานิลลาหอมหวาน กลิ่นดอกมะลิที่อ่อนโยน และชั้นรสของดอกข่าไทยที่เฉพาะตัว ก่อนประดับด้วยกลีบกุหลาบกรอบ ทุกคำเปรียบเสมือนบทกวีแห่งความอ่อนโยน หากเปรียบเป็นอ้อมกอด คงจะเป็นอ้อมกอดที่เบาแต่เปี่ยมด้วยความรัก

และยังมี Petit Four ที่จัดเสิร์ฟเป็น 3 คำปิดท้าย สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และความใส่ใจ เริ่มจากเครปซูเซ่ (Crêpe Suzette) ที่ตีความใหม่อย่างประณีต ต่อด้วยทาร์ตที่ดึงกลิ่นรสจากสมุนไพรสด สร้างความสดชื่นและคาดไม่ถึง และปิดท้ายด้วยช็อกโกแลตที่ซ่อนสัมผัสของมะพร้าวคั่ว เติมเต็มมื้ออาหารให้จบลงอย่างละเมียดละไมและน่าจดจำ


ทั้งหมดนี้คือการกลับมาของ Le Grand Dame ที่งดงามยิ่งกว่าที่เคยเป็น Anne-Sophie Pic at Le Normandie ณ โรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ (Mandarin Oriental, Bangkok) ไม่ใช่เพียงร้านอาหาร Fine Dining หากแต่คือการสืบสานและต่อยอดตำนานแห่งรสชาติริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถ่ายทอดด้วยมิติที่ร่วมสมัย อบอุ่น และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ประสบการณ์ที่ถักทอรสชาติจาก Rhône Valley มาสู่ Chao Phraya River อย่างลงตัว

Anne-Sophie Pic at Le Normandie
- Location: 48 โอเรียนเต็ลอเวนิว ซอยเจริญกรุง 40 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ
- Opening Hours: เปิดบริการ วันพุธ – วันอาทิตย์ 12.00 น. ถึง 15.30 น. | 18.30 น. ถึง 23.30 น.
- Reservations: 02-659-9000 | [email protected]
- Facebook: pic.lenormandie
- Instagram: @pic.lenormandie
- Website: https://www.mandarinoriental.com/en/bangkok/chao-phraya-river/dine/anne-sophie-pic-at-le-normandie