ณ ริมหาดหัวหินที่เงียบสงบ ห้องอาหารจรัส หัวหิน (Jaras Hua Hin) ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท (InterContinental Hua Hin Resort) ได้เผยโฉมใหม่ภายใต้แนวคิดร่วมสมัย ที่หลอมรวมวัฒนธรรม วิถีชีวิตไทย และจิตวิญญาณแห่งความยั่งยืนอย่างงดงาม ภายใต้บรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองตากอากาศระดับตำนาน พร้อมเปิดบ้านต้อนรับค่ำคืนแห่งความทรงจำ กับ Four Hands Dinner สุดพิเศษที่เกิดจากความร่วมมือของสองเชฟผู้มากฝีมืออย่าง เชฟอิษฏ์ พันธุ์ธิช จินดาจิธาวัฒน์ และ เชฟชุมพล แจ้งไพร ที่มาร่วมร้อยเรียงรสชาติและเรื่องราวของอาหารไทยให้เปล่งประกายในมิติใหม่

ห้องอาหารจรัส หัวหิน (Jaras Hua Hin) ตั้งอยู่ริมชายหาดในบรรยากาศแสนสงบ ทว่าเบื้องหลังความงดงามของสถานที่คือแนวคิดที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า อาหารแต่ละจานไม่ได้เป็นเพียงภาพที่สวยงาม หากแต่สะท้อนภูมิปัญญา รสชาติ และเรื่องราวของท้องถิ่นผ่านมุมมองร่วมสมัย ภายใต้แนวคิด Circular Dining ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบจากชุมชน ไปจนถึงการออกแบบเมนูที่ส่งต่อคุณค่าทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ทุกจานจึงเป็นมากกว่าอาหาร หากคือบทสนทนาระหว่างธรรมชาติและความตั้งใจของผู้ปรุง

การร่วมงานของ เชฟอิษฏ์ พันธุ์ธิช จินดาจิธาวัฒน์ และ เชฟชุมพล แจ้งไพร คืออีกหนึ่งจุดสำคัญที่ขับเน้นตัวตนของจรัสในโฉมใหม่ได้อย่างชัดเจน “เชฟอิษฏ์” เชฟรุ่นใหม่มากฝีมือ ผู้สั่งสมประสบการณ์จากร้าน Kiin Kiin ในโคเปนเฮเกน และคว้ารางวัลระดับประเทศหลายเวที โดดเด่นด้วยการออกแบบรสชาติที่ละเมียดละไมและแฝงด้วยความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่ “เชฟชุมพล” เจ้าของร้าน R-HAAN ระดับสองดาวมิชลิน ผู้เปี่ยมด้วยความรู้ลึกซึ้งเรื่องอาหารไทยอย่างแท้จริง ยังรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับจรัสในทิศทางใหม่ครั้งนี้ด้วย

เมนูที่เสิร์ฟในค่ำคืนนี้ เป็นการแนะนำรสชาติใหม่ของร้านภายใต้โฉมรีแบรนด์ โดยเริ่มต้นด้วย Amuse Bouche สี่คำที่เปรียบเสมือนบทเกริ่นรสชาติระหว่างเชฟทั้งสอง คำแรกจากเชฟชุมพลอย่าง ขนมครกคาเวียร์หัวหิน เนื้อแป้งบางกรอบหอมกะทิ ตัดกับคาเวียร์หัวหินสดที่ให้สัมผัสเค็มละมุนอย่างสมดุล ถัดมาเป็น ส้ามะเขือเทศ สไตล์เหนือ รสเปรี้ยวหวานกลมกล่อมแต่งแต้มด้วยสมุนไพรพื้นถิ่นที่ชูเอกลักษณ์ของภูมิภาค ขณะที่ฝั่งเชฟอิษฏ์นำเสนอ เปาะเปี๊ยะทองคำไส้แกงกะหรี่ปูหัวหิน กลิ่นเครื่องเทศไทยชัดเจนแต่ไม่รุนแรง ปิดท้ายด้วย หอยนางรมทอดกรอบ ที่เคลือบแป้งบางเบา อัดแน่นด้วยรสชาติทะเลสดใหม่ เคี้ยวแล้วชุ่มฉ่ำ อร่อยจนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้น

ต่อด้วย Appetiser ที่ยังคงสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของทั้งสองเชฟ ด้านเชฟอิษฏ์นำเสนอ เส้นปลาเก๋าซาวน้ำอบสับปะรดหัวหินและหอยเชลล์อบฟาง เสิร์ฟแบบเย็น กลิ่นรมควันของหอยเชลล์ผสานกับรสเปรี้ยวหวานของผลไม้เขตร้อน เติมมิติและความสดชื่นให้จานได้อย่างน่าหลงใหล ขณะที่เชฟชุมพลเลือกเสิร์ฟ กุ้งแม่น้ำปราณสำราญจรัสรส ในรูปแบบยำไทยรสจัดจ้าน ที่เปรี้ยวหวานกลมกล่อมและแฝงด้วยกลิ่นอายตำรับไทยโบราณ ซ่อนความลึกในทุกคำอย่างมีชั้นเชิง


สำหรับจานซุป เชฟอิษฏ์สานต่อเรื่องราวของวัตถุดิบพื้นบ้านด้วยการหยิบฟักทองมารังสรรค์ใหม่ในเมนู แกงเลียงฟักทองเผาเคล้าคลอกั้งหัวหินย่างถ่าน กลิ่นเผาหอมฟุ้งของฟักทองอบไฟผสานกับความหวานละมุนจากเนื้อกั้งสด ยิ่งเพิ่มความกลมกล่อมให้ซุปถ้วยนี้อบอวลด้วยมิติของความอบอุ่นและความลึกซึ้งอย่างน่าประทับใจ

เมื่อเข้าสู่จานหลัก ความโดดเด่นของทั้งสองเชฟยิ่งฉายชัด เชฟชุมพลถ่ายทอดภูมิปัญญาอาหารไทยในเมนู แกงขี้เหล็กโบราณเนื้อโคขุนกำแพงแสนย่างดอกเกลือเมืองเพชร ที่ไม่ได้มีเพียงเนื้อย่างนุ่มลึกผ่านไฟอ่อนจนหอมกรุ่น หากแต่มีข้าวซ่อนอยู่ในแป้งที่ขึ้นรูปคล้ายพาย ให้สัมผัสนุ่มแน่นและกลิ่นหอมคล้ายบะจ่างจีน เสริมรสด้วยดอกเกลือเมืองเพชรที่ตัดกับความขมนวลของใบขี้เหล็กได้อย่างลงตัว ส่วนเชฟอิษฏ์เสิร์ฟ กุ้งลายเสือรมควันเนื้อมะพร้าวหอมราดซอสฉู่ฉี่สมุนไพร ที่เคี่ยวจนเข้มข้น กลิ่นกะทิหอมมันผสานกลิ่นรมควันจากเตาถ่านในทุกคำ เป็นความกลมกล่อมที่ทั้งร่วมสมัยและยังคงรากของอาหารไทยไว้ได้อย่างน่าประทับใจ


ของหวานในค่ำคืนนี้ยังคงสะท้อนความตั้งใจในทุกองค์ประกอบ เชฟทั้งสองเลือกถ่ายทอดรสชาติผ่านชื่อเมนูที่ยาวอย่างมีนัย เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละชั้นรสชาติอย่างครบถ้วน เมนูนี้คือ เปียกปูนอ่อนเคียงเจลลี่และซอสไวน์แดงมอนซูน วัลเล่ย์ เข้าคู่กับขนมโคอบร่ำกลิ่นมะลิไส้มะพร้าวน้ำตาลออร์แกนิกปราณบุรีและถั่ว กับไอศกรีมวานิลา ที่นำของหวานแบบไทยแท้มานำเสนอด้วยองค์ประกอบร่วมสมัย เปียกปูนเนื้อเนียนให้สัมผัสแน่นนุ่ม เสริมมิติด้วยซอสไวน์แดงและเจลลี่กลิ่นหอมลุ่มลึก เข้าคู่กับขนมโคอบที่หอมกลิ่นมะลิและไส้แน่นด้วยมะพร้าวน้ำตาลและถั่ว ปิดท้ายด้วยไอศกรีมวานิลลาที่เชื่อมรสทุกอย่างเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกล่อม

ก่อนจะจบมื้อ เชฟทั้งสองยังคงใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่านเมนู Petit Four สี่คำ ได้แก่ ขนมตาลสดเมืองเพชร ที่ให้สัมผัสเนียนนุ่ม หอมฉ่ำตามแบบฉบับดั้งเดิม โกโก้ชุมพรแสงสะท้อนนาเกลือสมุทร ที่มีกลิ่นอายไทยร่วมสมัย เติมมิติให้รสชาติได้อย่างมีชั้นเชิง มาการองหอมหวานไข่เค็มออร์แกนิก ที่บาลานซ์รสเค็มและหวานในคำเดียว และปิดท้ายด้วย ถั่วตัดเม็ดมะม่วงคาราเมล จากเชฟอิษฏ์ ที่กรุบกรอบ หอมมัน เป็นการส่งท้ายมื้อค่ำที่ละเมียดละไมและตราตรึง

นอกจากมื้ออาหาร เรายังได้สัมผัสอีกหลายมิติของ InterContinental Hua Hin Resort ผ่านกิจกรรมที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของหัวหินอย่างลึกซึ้ง ทั้งเสียงดนตรีที่สะท้อนจังหวะของเมืองในอดีตและปัจจุบัน ประติมากรรมที่ได้แรงบันดาลใจจากหิมพานต์ และศิลปะกว่า 99% ที่คัดสรรมาจากบ้านศิลปินท้องถิ่น รวมถึงรถไฟจำลองสุดคลาสสิกที่ชวนย้อนนึกถึงบรรยากาศในยุครัชกาลที่ 7 เมื่อผู้คนเดินทางด้วยรถไฟมาพักผ่อนริมทะเล เรายังได้เดินชมงานศิลป์ริมทะเลที่ Azure และเยี่ยมชม coCco Bar Square ที่เปิดพื้นที่ให้ช่างฝีมือได้ถ่ายทอดผลงาน ทุกองค์ประกอบล้วนหลอมรวมความงามของศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตเข้าด้วยกันอย่างกลมกล่อม





InterContinental Hua Hin Resort คือโรงแรมระดับห้าดาวที่ถ่ายทอดกลิ่นอายของเมืองตากอากาศในอดีตผ่านดีไซน์ร่วมสมัยที่เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น รายล้อมด้วยงานศิลป์จากบ้านศิลปินและประติมากรรมจากจินตนาการแห่งหิมพานต์ สัมผัสความสะดวกสบายจากห้องพักทั้งหมด 159 ห้อง รวมถึงห้องอาหาร 4 แห่งและบาร์อีก 2 แห่งที่พร้อมให้เลือกพักผ่อนอย่างมีสไตล์ รีสอร์ตตั้งอยู่ใจกลางเมืองหัวหิน เมืองชายทะเลที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเกือบศตวรรษ ด้วยหาดทรายขาวสะอาด แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สนามกอล์ฟระดับโลก และไร่องุ่นบนเนินเขา ทำให้หัวหินยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่มอบความทรงจำอันน่าประทับใจไม่รู้ลืม

ในการเข้าพักครั้งนี้ SOtraveler ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศห้องพักวิวสระว่ายน้ำที่โอบล้อมด้วยสวนส่วนตัว เพียงไม่กี่ก้าวจากประตูห้องก็สามารถเดินลงสระได้โดยตรง ความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวของพื้นที่ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนให้ชวนหลงใหลและผ่อนคลายอย่างแท้จริง ห้องพักตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยแรงบันดาลใจจากพระราชนิเวศน์มฤคทายวันในรัชกาลที่ 6 ให้กลิ่นอายไทยคลาสสิกที่สง่างามและผ่อนคลายในคราวเดียวกัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันและทันสมัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการพักผ่อนริมทะเลอย่างแท้จริง






Jaras Hua Hin โฉมใหม่ในวันนี้ คือจุดหมายแห่งรสชาติที่ควรค่าแก่การเดินทางมาเยือน ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดการปรุงอาหารแบบร่วมสมัย การเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นอย่างพิถีพิถัน หรือฝีมือของเชฟระดับแนวหน้าที่ร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวไทยผ่านทุกจานอย่างมีชั้นเชิง หากมีโอกาสมาเยือนหัวหินอีกครั้ง ขอแนะนำให้แวะสัมผัสบรรยากาศการพักผ่อนสุดรื่นรมย์ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท (InterContinental Hua Hin Resort) และลิ้มลองอาหารไทยร่วมสมัยที่ห้องอาหารจรัส หัวหิน (Jaras Hua Hin) ซึ่งจะเติมเต็มประสบการณ์ริมทะเลได้อย่างสมบูรณ์แบบเลย


Jaras Hua Hin
- Location: โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท (InterContinental Hua Hin Resort)
- Opening Hours: ร้านเปิดวันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ 17.00 น. – 22.00 น.
- Reservations: 032-616-5000
- Facebook: JarasHuaHinRestaurant
- Instagram: @jarashuahinrestaurant
- Website: https://huahin.intercontinental.com/