Beyond The Border: Blue by Alain Ducasse X Claudine

1,511 views

จากความสำเร็จของ Beyond the Boundaries ในครั้งที่ผ่านมา ก็ถึงเวลาความอร่อยกันอีกครั้ง เมื่อสองเชฟคนดัง อย่างเชฟ Wilfrid Hocquet, Executive Chef จาก Blue by Alain Ducasse ร่วมมือกับเชฟ Loïc Portalier, Head Chef จาก Claudine ห้องอาหารชื่อดังจากประเทศสิงคโปร์ จัดมื้ออาหารสุดพิเศษขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้ชื่อ Beyond The Border: Blue by Alain Ducasse X Claudine เป็นการรังสรรค์เมนูอาหารกลางวัน และอาหารเย็นสุดเอ็กซ์คลูซีฟในคอนเซ็ปต์การเฉลิมฉลอง “Joie de Vivre” หรือสุนทรีย์แห่งชีวิตตามแบบฉบับของชาวฝรั่งเศส

เมนูอาหารกลางวันและอาหารเย็น Beyond The Border: Blue by Alain Ducasse X Claudine เป็นการนำเสนอเมนูไฮไลต์จากห้องอาหาร ของทั้งสองเซฟคนดัง อย่างเมนู Jambon Persillé with Ravigote จาก Claudine และ Crustacean Consommé, Pork Cheek Raviolini, Heirloom Radish จาก Blue by Alain Ducasse โดยเซ็ทอาหารกลางวันและดินเนอร์จะเสิร์ฟที่ราคา 4,900++ บาทและ 7,900++ ตามลำดับ

A celebration of “Joie de Vivre”

7-COURSE LUNCH

ความหรรษาของการเปิดประสบการณ์ครั้งนี้ เริ่มต้นกันที่ Amuse-bouche ขนมปังซาวร์โดว์ย่าง ท็อปด้วยปลาซาร์ดีนและน้ำมันกระเทียม เมนูนี้เป็นของ Claudine บอกเลยว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก สัมผัสของซาวร์โดว์กำลังดี ทานคู่กับเนื้อปลาที่รสชาติเข้ากันลงตัวเป็นอย่างดี

Sardines On Sourdough Toast

ส่วน Pissaladière ทาร์ตหัวหอมสไตล์ฝรั่งเศส เป็นเมนูจาก Blue by Alain Ducasse ซึ่งเป็นอีกจานที่ว้าวมาก อร่อยจนอยากขอเพิ่ม สำหรับผู้ชื่นชอบหัวหอมคุณจะหลงใหลเมนูนี้อย่างแน่นอน

Pissaladiere French Pizza

ไปต่อกันที่จานขนมปัง เป็น 2 เมนู 2 รูปแบบจากทั้ง 2 ร้าน โดย Blue by Alain Ducasse นำเสนอ กูเกิลฮัพฟ์ที่ทำมาจากชีทคอมเต้ เมล็ดทานตะวัน มะเขือเทศและน้ำมันมะกอก  สำหรับจานนี้ เปิดต่อมรับกลิ่นเป็นอย่างมาก ด้วยความหอมที่เย้ายวนใจ ยิ่งพอได้ลิ้มชิมรส กลิ่นหอม ๆ ของชีทยังไปอบอวนอยู่ในปาก ทุกอย่างลงตัวเข้ากันดีจริง ๆ

Gugelhupf

ส่วนทางฝั่ง Claudine นำเสนอแผ่นขนมปังกรอบที่ทำมาจากบัควีทและพริกหยวก รับประทานควบคู่กับซอสที่ทำมาจากโยเกิร์ตมินต์  เป็นเมนูที่ดูง่าย ๆ แต่บอกเลยว่า รสชาติไม่ง่ายแบบที่เห็น เมื่อทานขนมปังกรอบและโยเกิร์ตมินต์คู่กัน มันเกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่า… คิดรสชาติให้ออกมากลมกล่อมลงตัวแบบนี้ได้อย่างไร? 

Crispy bread made from buckwheat and bell pepper

ความตื่นตาตื่นใจ ยังคงดำเนินไปต่อ เมื่อคอร์สแรกก็มาอยู่ตรงหน้าเป็นเมนูเพิ่มความสดชื่น เพื่อเคลียร์ต่อมรับรส ก่อนที่เราจะเริ่มอาหารจานหลักกันอย่างจริงจัง 

Frozen melon from Cavaillon, Sauternes granite and Cariar

ขึ้นชื่อว่า Signature คงไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว เพราะนี่คือขนมปังที่อบมาได้กำลังดี เนื้อนุ่มฟูเบา ยิ่งมาได้เนยคุณภาพดี ๆ ทานคู่กันเข้าไปอีกบอกเลยว่า อาจมีการร้องขอเพิ่มกันได้ไม่เกินจริง

Signature Bread and Butter

เข้าสู่โหมดของจานหลักกันบ้าง “Jambon persille” & Ravigote Condiment อาหารจานเย็นที่ทำมาจากแฮมและใบพาร์สลีย์ ด้วยรสชาติเค็มของตัวแฮม จะช่วยตัดรสชาติของใบพาร์สลีย์และเจลลี่ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นอาหารจานเย็น แต่วัตถุดิบต่าง ๆ ที่คัดสรรมาอยู่ในจานนั้นเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ  เพิ่มรสชาติด้วยซอสราวิโกเต ซึ่งเป็นซอสคลาสสิกที่มีกรดเล็กน้อยในอาหารฝรั่งเศส ที่จะปรุงแบบอุ่นหรือเย็นก็ได้ สำหรับมือใหม่อย่างเรา จานนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ดี ๆ ที่ได้ลิ้มลองจริง ๆ

“Jambon persille” & ravigote condiment

ถัดมาด้วยเมนู Lightly smoked mediterranean carabineros, cherries & fresh almonds เมนูนี้มากับวัตถุดิบยอดนิยมอย่าง Carabineros กุ้งทะเลน้ำลึก ผ่านกรรมวิธีรมควันเบา ๆ เสิร์ฟมาพร้อม เชอร์รี่และอัลมอนด์สด จัดจานมาสวยงาม รสชาติของเมนูนี้คือเน้นความสดของเนื้อกุ้งที่เป็นวัตถุดิบหลัก มีความกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียนอย่างชัดเจน 

Lightly smoked Mediterranean carabineros, cherries & fresh almonds

Pork cheek raviolini, delicate crustacean’s consomme, heirloom radish and sea purslane จานราวิโอลี สัมผัสแรกคือกลิ่นหอมชวนทาน รสชาติของซุปกุ้งกลมกล่อม เข้ากันได้ดีกับตัวราวิโอลี เพิ่มรสชาติและสีสันด้วยหัวไชเท้าฝรั่งและใบผักเบี้ยที่มีสรรพคุณเพื่อสุขภาพมากมาย แถมยังมีโอเมก้า 3 สูงอีกด้วย 

Pork cheek raviolini, delicate crustacean’s consomme,
heirloom radish and sea purslane

Buckwheat tartlet, wild mushrooms, vin jaune zabaglione and black truffle มาถึงเมนูที่สาย Truffle ต้องร้องกรี๊ด ด้วยกลิ่นของ Truffle หอมรันจวนใจตั้งแต่มาเสิร์ฟ ตัวทาร์ต Buckwheat รวมถึงกลิ่นของเห็ดป่า ให้กลิ่นที่ชวนเชิญให้อยากทานมากขึ้นไปอีก เป็นอีกจานที่ต้องใช้สัมผัสทางการรับรู้กลิ่นค่อนข้างมากจริง ๆ

Buckwheat tartlet, wild mushrooms, vin jaune zabaglione and black truffle

ยังไม่จบ อร่อยกันต่อกับ Confit line-caught John dory, stuffed “Andine cornue” tomato, bouillabaisse reduction เมนูปลา John Dory ที่จับมาได้ด้วยวิธีการใช้เบ็ด (ทำให้ได้เนื้อปลาที่ดีที่สุดในโลก) ผ่านการปรุงด้วยการตุ๋นแบบฝรั่งเศส ช่วยให้คงรสชาติของเนื้อปลาไว้ได้เป็นอย่างดี เสิร์ฟมาพร้อมมะเขือเทศที่ให้รสชาติที่ลงตัวเมื่อทานคู่กัน  อยากบอกว่าเป็นเนื้อปลาที่สุกกำลังดี อร่อยจนไม่อยากให้ถึงคำสุดท้ายจริง ๆ

Confit line-caught John dory, stuffed “Andine cornue” tomato, bouillabaisse reduction

และ “Chou farci” Gascon bacon, foie gras, prune ปิดท้าย Main Couse ด้วยเมนูที่พูดได้เลยว่า Juicy มาก เมื่อส่วนผสมอย่าง ตับห่านคุณภาพ, เบคอนหอม ๆ ร่วมถึงพรุน ถูกนำมารวมและห่อเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการปรุงอย่างดี ทำให้ออกมาเป็นอีกหนึ่งจานที่ให้รสชาติว้าวมาก ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันได้อย่างลงตัวจริง ๆ

“Chou farci” Gascon bacon, foie gras, prune

จะให้ครบถ้วนสมบรูณ์ เมื่อกินคาวก็ต้องกินหวาน ด้วยเมนูของหวานสักหน่อย แต่ก่อนจะเข้าเข้าสู่คอร์สขนมหวานกัน เรามาล้างปากกันก่อนเพื่อความสดชื่นด้วยเมนู Chilled strawberry, watermelon and marigold condiment กับการนำสตอร์เบอร์รี่ แตงโม ที่ปรุงรสด้วยซอสดอกทานตะวัน เมนูนี้เสิร์ฟมาแบบเย็น ๆ เป็นการล้างปากก่อนเข้าเมนูของหวานได้เป็นอย่างดี

Chilled strawberry, watermelon and marigold condiment

และจบที่ขนมหวานด้วย Roasted apricots, bitter almond ice cream and brioche ด้วยการนำแอบปิคอตมาย่าง เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศครีมอัลมอนด์ และขนมปังฝรั่งเศสอย่าง Brioche

Roasted apricots, bitter almond ice cream and brioche

ปิดท้ายด้วย Petit four เมนูน่ารัก ด้วยขนมอบ ช็อคโกแลต และไอศครีม เป็นการจบมื้อสุดพิเศษนี้ได้อย่างน่าประทับใจจริง ๆ

Petit four

“อิ่มกว่านี้ ก็ไม่ไหวแล้ว” เป็นมื้อกลางวัน ที่สร้างประสบการณ์ที่พิเศษสุด บรรยากาศที่อบอวนไปด้วยกลิ่นอายฝรั่งเศส ทำให้เราเหมือนได้ไปนั่งทานอาหารดี ๆ ผ่านการปรุงชั้นเยี่ยมอยู่ที่ปารีสจริง ๆ เป็นความประทับใจอีกครั้งในชีวิตที่จำจดจำไปอีกนานแสนนาน 

ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ Beyond the Border: Blue by Alain Ducasse x Claudine จัดขึ้นในวันที่ 20 และ 21 สิงหาคม 2566 ชั้น 1 ไอคอนสยาม โทร. 06-5731-2346 หรือ https://www.blue-alainducasse.com

Share
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
แสดงความคิดเห็นทั้งหมด