“กวี” หมายถึง ผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการประพันธ์บทกลอน ที่เกิดจากการเรียงร้อยถ้อยคำจนกลายเป็น “บทกวี” อันแสนไพเราะ เช่นเดียวกับ KAVEE ที่รังสรรค์เมนูอาหารไทยจากวัตถุดิบตามฤดูกาล ราวกับการเรียงร้อยรสสัมผัสและเนื้อสัมผัสให้ผสานเข้ากันอย่างสวยงามและเต็มไปด้วยจังหวะ เพื่อให้เกิดสุนทรียศาสตร์ในการดื่มด่ำความเป็นเลิศ
KAVEE อีกหนึ่งร้านอาหารไทยสไตล์ไฟน์ไดนิ่งที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติ การคัดเลือกวัตถุดิบ ความคิดสร้างสรรค์ ที่มักจะเกิดความคิดใหม่ ๆ อยู่เสมอ ผ่านความตั้งใจของ เชฟเต้ วรธน อุดมชโลทร เชฟหนุ่มมากประสบการณ์ จบด้านอาหารโดยตรงจาก The Culinary Institute of America (CIA) นิวยอร์ก และผ่านการทำงานในร้านมิชลินสตาร์มาแล้วหลายต่อหลายร้าน อีกทั้งยังเป็นนักประพันธ์ผู้อยู่เบื้องหลังทุกบทกวีภายใน KAVEE แห่งนี้อีกด้วย
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปีสำหรับสถานที่แห่งนี้ KAVEE ได้เปิดตัวบทกวีบทใหม่ เรียงร้อยความไพเราะจากเมนูจานโปรดจากฤดูกาลที่ผ่าน ๆ มา บอกเล่าเรื่องราวอันน่าจดจำตลอดการเดินทาง ผ่านการคิดและรังสรรค์ใหม่ทั้งรสชาติและรูปลักษณ์อย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของ KAVEE จนการเป็นคอร์สเมนูที่มีชื่อว่า “Signatures” ที่ SOtraveler จะได้เพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของบทกวีในคราวนี้
เริ่มต้นที่เมนูเรียกน้ำย่อย ที่จะเสิร์ฟมาพร้อมกันทั้งสามเมนูอย่าง Pumpkin / Kanom Jeen Sao Nam ได้รับแรงบันดาลใจจากขนมจีนซาวน้ำ เมนูหาทานยากที่มักจะทำทานกันในครอบครัวของเชฟ หอมอร่อยและครบรสหวานอมเปรี้ยวด้วยส่วนประกอบที่ลงตัว กรอบด้วยกระทงจากฟักทอง และตบท้ายด้วยรสของซอสเปลือกส้มแมนดารินที่อวลอยู่ในปาก ถือเป็นการเปิดรสสัมผัสได้น่าสนใจ
ต่อด้วย Cuttlefish เชฟเลือกใช้หมึกสดจากชุมพรให้รสชาติที่ดีและมีเนื้อสัมผัสนุ่ม เพิ่มมิติของรสชาติด้วยการหมักพร้อมกับหมึกจนกลมกล่อมและเค็มเล็กน้อย ตบท้ายด้วยความเผ็ดเบา ๆ จากพริกขี้หนูดอง ให้ความอร่อยที่แสนจะพอดี
และ Soy Pickled Tiger Prawn กับทาร์ทาร์กุ้งลายเสือออร์แกนิกจากจังหวัดตราด ที่ขึ้นชื่อเรื่องของความสะอาด กลิ่นหอมสดชื่น และรสชาติอันแสนหวาน มาพร้อมกับกลิ่นของสมุนไพร ให้รสชาติเปรี้ยวนำและเติมความอร่อยด้วยเยลลี่รสเผ็ดเล็กน้อยถูกใจทีเดียว
บรรเลงบทกวีกันต่อด้วยเมนูซุป ที่ให้ความรู้สึกเหมือนจิบคาปูชิโน่พร้อมกับของว่าง ผ่านเมนู Crab Fat Rice Congee Cappuccino เพียงคำแรกที่จิบ รู้สึกได้ถึงความครีมมี่ของครีมมันปูรสสัมผัสอันแสนละมุน เคียงคู่ด้วยของว่างอย่างข้าวพองไข่ปูกรุบกรอบ และกูแฌร์ (Gougère) สาหร่าย ที่ช่วยเสริมรสชาติของซุปได้อย่างดี
อร่อยกับรสชาติที่คุ้นเคยกับ Chicken Wing with Truffle ปีกไก่ฉ่ำซอสมะขามยัดไส้ด้วยข้าวเหนียวจากเชียงราย หอมกลิ่นทรัฟเฟิลเบา ๆ ผู้ที่ชื่นชอบทรัฟเฟิลไม่ควรพลาด เคียงคู่ไก่ย่างด้วย Seasonal Som Tam เมนูส้มตำแสนสดชื่น ที่นำแนวคิดของส้มตำมาปรับใหม่อย่างน่าสนใจด้วยซอสรสชาติส้มตำ เพิ่มกิมมิคด้วยผักหลากหลายชนิดที่ผ่านการปรุงด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการทอด การย่าง การรมควัน การดอง รวมทั้งผักสด ๆ ให้เนื้อสัมผัสและรสชาติที่มีมิติแตกต่างกันออกไป ถือว่าเป็นเมนูที่ผ่านการคิดอย่างละเอียดและซับซ้อน
พลาดไม่ได้กับ Duck สั้น ๆ แต่ได้ใจความ ด้วยความอร่อยของเมนูจานโปรดตลอดกาลของ KAVEE โดยคราวนี้เชฟเลือกเอาทุกส่วนของเป็ดมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอกเป็ดที่ผ่านการดรายเอจ ก่อนนำไปรมควันจนหนังกรอบอร่อย ส่วนเนื้อสะโพกบดและนำไปอบได้อย่างพอดี เสิร์ฟพร้อมกับซอสตับบด และซอสที่เคี่ยวด้วยกระดูกเป็ดให้รสชาติเปรี้ยวหวานแทนการใช้ซอสไวน์แดง เป็นเมนูที่ใช้เป็ดอย่างมีคุณค่าและให้รสชาติที่อร่อยน่าประทับใจ
พักล้างปากสักหน่อยด้วย Orange Passion Fruit Granita จี๊ดจ๊าดสดชื่นกับมะม่วง เสาวรสและใบทาร์รากอนที่เข้ากันได้ดี
ก่อนเข้าสู่เมนูจานหลักด้วย Australian Wagyu Beef กับเนื้อวากิวแสนนุ่มละมุนจากออสเตรเลีย เสิร์ฟมาพร้อมขนมปังหวานกรอบ และซอสสองชนิดอย่าง ซอสผักโขมและผักชี กับซอสกระเทียมและกุ้ยช่ายให้รสชาติเผ็ดเล็กน้อย เป็นเมนูจานหลักที่ไม่ทำให้ผิดหวัง
ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Dark Chocolate Sorbet, Truffle กับซอร์เบต์ดาร์กช็อคโกแลตที่หวานอย่างพอดี มาพร้อมกับครีมทรัฟเฟิลแสนหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ครัมเบิลกาแฟ และกานาซช็อคโกแลต ผสมผสานจนกลายเป็นเมนูของหวานที่ทานไม่เบื่อเลย
ก่อนจะจบลงด้วยเปอร์ติตโฟร์ Khao Lam Choux ชูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวหลาม หลับตาทานให้ความรู้สึกเหมือนทานข้าวหลามจากต้นตำรับ เสิร์ฟมาพร้อม Fish Sauce เมนูที่ค่อนข้างทำให้แปลกใจด้วยรสชาติเข้มข้นของหัวน้ำปลาจากระยอง มาผสมผสานกับคาราเมลอย่างลงตัว ให้รสชาติอันแสนแปลกใหม่และเป็นรสชาติที่น่าจดจำอย่างยิ่ง พร้อมจิบชารากบัวและมะตูมกับ Lotus Root and Bael Fruit Tea เป็นอันปิดมื้ออันน่าประทับใจนี้ได้อย่างสมบูรณ์
ถือว่าต้องปรบมือให้กับเชฟเต้หรือนักประพันธ์ของเราดัง ๆ ที่คิดทุกอย่างและรังสรรค์ทุกเมนูออกมาได้ครบสมบูรณ์ เสมือนเป็นบทกวีอันแสนไพเราะ สัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันในทุก ๆ รสชาติ จากทุก ๆ เมนู ที่เรียงร้อยกันอย่างสวยงาม ผ่านวัตถุดิบจากในประเทศไทยแทบทั้งหมด เรียกว่าเป็นเซ็ตเมนูที่ฉลองการครบรอบ 3 ปีที่ถ่ายทอดเมนูอาหารไทยออกมาอย่างดีเยี่ยม นำเราเข้าสู่แก่นแท้ของความเป็น KAVEE ได้อย่างลึกซึ้ง
KAVEE
- Location: 88/1, 88/2 คอนโด Ideo Morph 38 ซอยสุขุมวิท 38 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
- Opening Hours: เปิดบริการ 18:00 – 22:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
- Reservations: 080 995 9095 หรือ Line OA: @kavee
- Social Media: Facebook: kaveerestaurant | Instagram: @kaveerestaurant