ชวนคุณออกเดินทางไปเติมสีสันการใช้ชีวิตที่ดินแดนเมอร์ไลออนด้วยกันที่ “Mondrian Singapore Duxton” (มอนเดรียน สิงคโปร์ ดักซ์ตัน) โรงแรมแห่งแรกของแบรนด์ Mondrian ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแห่งที่สองในเอเชียแปซิฟิก โดยแห่งแรกตั้งอยู่ที่ Mondrian Seoul Itaewon ประเทศเกาหลีใต้ ที่ประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับจากนักเดินทางอย่างมากมาย
ก่อนอื่น เรามาเกริ่นถึงแบรนด์ “Mondrian“ (มอนเดรียน) เพื่อให้ทุกคนรู้จักตัวตนของแบรนด์มากยิ่งขึ้นกันก่อน เนื่องจากเป็นแบรนด์ใหม่และยังไม่มีในประเทศไทย Mondrian เป็นแบรนด์โรงแรมที่เน้นการนำเสนอช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบหรือ perfect moments มีความทันสมัย จัดจ้าน ขี้เล่น กล้าที่จะนำเสนอความตื่นเต้นตั้งแต่ก้าวแรก อย่างเย้ายวนและโดดเด่น จนมีการกล่าวว่า Mondrian คือแบรนด์โรงแรมที่นักเดินทางต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง
Take Your Time in the Charming Lifestyle Area of Singapore
“Mondrian Singapore Duxton” ตั้งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ของชุมชนชาวจีนในสิงคโปร์ ปัจจุบันได้กลายเป็นย่านไลฟ์สไตล์อันแสนคึกคัก มีการผสมผสานวัฒนธรรมเก่าแก่อย่างตึกแถวโบราณหลังคาสีแดงอิฐ และความทันสมัยได้อย่างกลมกลืน เต็มไปด้วยร้านอาหารทั้งร้านฝรั่งเศส ร้านมิชลิน และร้านอาหารเกาหลีมีให้เลือกหลายร้านเลยทีเดียว
ที่ตั้งของโรงแรมอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในระยะ 400 เมตร อย่าง ไชน่าทาวน์ วัดพระเขี้ยวแก้ว เดินเที่ยวได้สบาย หรือจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สะดวกสบาย โรงแรมอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า Maxwell และสถานี Tanjong Pagar
Mondrian แห่งแรกในสิงคโปร์ นำเสนอสีสันแห่งการพักผ่อนอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมบริการที่หรูหราแต่ยังมีความเป็นกันเอง พื้นที่ของโรงแรมมีคอลเล็กชั่นงานศิลปะระดับนานาชาติและระดับท้องถิ่น ปรากฎเป็นป๊อปอาร์ตตามจุดต่างๆ หลายชิ้น หนึ่งในนั้นคือ KAWS (คอวส์) การ์ตูนหัวกะโหลกและตารูปกากบาท ผลงานศิลปะของศิลปินชาวนิวยอร์ก ไบรอัน ดอนเนลลี (Bryan Donelly) ซึ่งมีการติดตั้งแบบถาวรเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่ของโรงแรมฝั่งถนน Neil
The rooms & suites
ห้องพักและห้องสวีทของ Mondrian Singapore Duxton มีไว้ต้อนรันนักเดินทางมากถึง 302 ห้อง ออกแบบโดย Studio Carter โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสิงคโปร์แบบดั้งเดิมและตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็น Duxton Room, Duxton Corner, Pinnacle, Pinnacle Corner ทุกห้องเตียงนอนนุ่มสบายมาก ผ้าห่มให้สัมผัสที่สบายผิว อุณภูมิกำลังดี ทำให้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืน พร้อมเครื่องชงกาแฟของ Lavazza ให้กลิ่นหอม รสชาตินุ่มละมุน ถูกใจคอกาแฟอย่างเรา ส่วน Amenity Kit เป็นของแบรนด์ MALIN+GOETZ
ส่วนใครที่ชอบห้องพักแบบกว้างขวาง แนะนำให้เข้าพักในส่วนของห้อง Suite จะเริ่มต้นที่ Pinnacle Suite, Gallery Shophouse Suite, Shophouse Suite, Mondrian Suite และห้องระดับสูงสุดคือ Mondrian Shophouse Suite ที่มีพื้นที่กว้างกว่า 128 ตารางเมตร ดีไซน์เพดานแหลมทรงสูง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอาคารพาณิชย์เก่าแก่ในย่านนี้ มีพื้นที่นั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน ครบองค์ประกอบแห่งการพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ
The Restaurants & Bar
BOTTEGA DI CARNA
Bottega Di Carna ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของโรงแรม ชั้นเดียวกันกับล็อปบี้เช็คอิน ร้านอาหารอิตาเลียนแบบโมเดิร์น Bottega Di Carna ยังเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม ให้บริการทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น Breakfast ให้บริการแบบ semi-buffet มีสเตชั่นเมนูปรุงร้อน สลัด ซุป ขนมปัง เบเกอรี ชีส ผลไม้ วางเสิร์ฟเป็นบุฟเฟต์ ส่วนเมนูจานหลักเลือกสั่งและปรุงเสิร์ฟทีละจาน อาทิเช่น Egg Florentine ขนมปังซาวโดวจ์ท็อปด้วยโพชเอ้ก ผักโขมผัดและซอสฮอลลันเดส Chilli Crab Omelette ไข่เจียวปูราดซอสพริกสไตล์สิงค์โปร์ Scallion Noodles เมนูเส้นผัดขลุกขลิกกับซีอิ้ว เบคอนกรอบ สาหร่ายโนริ ผักไข่ และโพชเอ้ก รสชาติหวานเค็ม จานนี้หลายคนชอบ
เรายังมีโอกาสได้ลอง Saturday Brunch มื้อบรันซ์วันเสาร์ที่ให้บริการ ณ Bottega Di Carna เช่นกัน เสิร์ฟตั้งแต่เวลา 12:00 PM – 15:00 PM ราคาเริ่มต้นที่ 128 SGD ต่อคน เสิร์ฟสไตล์คอร์สเมนู โดยมีเมนูทานแอพพิไทเซอร์เลือกสั่งได้ไม่จำกัดอย่างเช่น Puglia Burrata สลัดมะเขือเทศเชอร์รีและชีสบูราต้า Mortadella ไส้กรอกอิตาลีมอร์ตาเดลลา Steak Tartare เมนูซิกเนเจอร์ของเชฟ dario และ คาลามารี (Calamari) ต่อด้วย From the Grill เมนูจานหลักเลือกได้คนละ 1 เมนู ได้แก่ Polpo Luciana, Roasted Cauliflower กะหล่ำดอกย่างเสิร์ฟแบบคลุกเคล้าเครื่องเทศที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง และอัลมอนด์ ไก่ย่างสมุนไพร เนื้อนุ่มหอมกลิ่นสมุนไพร และ 200-Day Grain-Fed Australian Black Angus Stockyard Ribeye ก็น่าสนใจไม่เบา
CHRISTINA
Christina ร้านอาหารกึ่งบาร์กึ่งบรันช์ ให้บริการตั้งแต่ 8:00 am-16:00pm เหมาะกับการนั่งชิล นั่งเมาท์กับเพื่อนๆ จิบดริงก์ จิบไวน์ พร้อมเมนูทานง่ายอย่างเช่น Acai Bowl, Goji Berry Granola หรือจะเป็นเมนูไข่และโทสต์ก็น่าสนใจไม่เบาอย่างเช่น Smashed Avocado Poached Egg, Shakshouka ส่วนใครอยากอิ่มท้องมากขึ้นก็มีเมนูเบอเกอร์อย่าง Wagyu Cheeseburger, Panino Con Guancia Di Manzo แซนด์วิชแก้มวัวย่าง ตบด้วยด้วยเมนูขนมหวานอย่าง Soft Serve Sunday, Black Forest Chocolate Fondant
CANYON CLUB
Canyon Club ร้านอาหารและบาร์ที่ตั้งอยู่ ชั้นรูฟท็อป นำเสนอเรื่องราวประหนึ่งว่า เมื่อคุณขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของโรงแรม แล้วก็พบว่าตัวเองถูกพาไปสู่ความหรูหราและความเย้ายวนใจของฮอลลีวูดในยุค 1970 ที่รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันกว้างไกลของเส้นขอบฟ้าของสิงคโปร์ที่ส่องประกายระยิบระยับ อยากนั่งเล่นที่คาบาน่าริมสระน้ำ หรือปาร์ตี้ที่บาร์บนชั้นรูฟท็อปก็สร้างสรรค์ได้ตามความชอบ มีค็อกเทลและม็อกเทลสีสันสวยงามให้เลือกจิบ และเมนูทานเล่น และทานเบาๆรองท้อง อย่าง Canyon Caesar, Fine De Dlaire Oysters, Shrimp Cocktail
JUNGLE BALLROOM
Jungle Ballroom พิกัดมุมปาร์ตี้และการเฉลิมฉลองยอดฮิตแห่งใหม่ในสิงค์โปร์ กับค็อกเทลบาร์เขตร้อนที่มีรากฐานมาจากความอุดมสมบูรณ์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กระตุ้นด้วยความลึกลับ และความเย้ายวนใจ ที่จะเปลี่ยนค่ำคืนของคุณให้เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกแห่งแสงสีเสียงอีกใบหนึ่ง นำทีมรังสรรค์เครื่องดื่มโดย Adrian Besa บาร์เทนเดอร์ผู้ที่มีแพชชั่นในการคิดค้นเครื่องดื่มใหม่ๆ ที่ผสมผสานวัตถุดิบจากเอเชีย
MONDRIAN SINGAPORE DUXTON
- Address | 16A Duxton Hill Singapore 089970
- Phone | 65 6019 8888
- Email | [email protected]
- Facebook | https://www.facebook.com/MondrianSingaporeDuxton
- Instagram | https://www.instagram.com/mondriansingapore/
- Website | http://mondriansingapore.com/