Elements Inspired by Ciel Bleu – Spring Guestronomic Journey 2022

สำหรับใครที่เป็นแฟนห้องอาหาร เอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ (Elements Inspired by Ciel Bleu)ห้องอาหารที่คว้ารางวัลมิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมาลิ้มลองเซ็ตเมนูมื้อค่ำเซ็ตใหม่ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ Spring Guestronomic Set Journey รังสรรค์โดยเชฟเจอราร์ด วิลลาเรท ฮอร์คาโญ (Gerard Villaret Horcajo) หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารคนใหม่ ผู้ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์การทำอาหารชั้นเลิศ และยังมีปรัชญาในการทำอาหารสไตล์ ‘from nose to tail’ อีกด้วย เชฟนำประสบการณ์ส่วนตัวผสมผสานหลักการทำอาหารชั้นเยี่ยมของ Ciel Bleu รังสรรค์เมนูพิเศษที่ผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารสุดสร้างสรรค์ของฝรั่งเศสเข้ากับวัตถุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาลจากประเทศญี่ปุ่น หากคุณมาลิ้มรสด้วยตัวคุณเองคุณจะค้นพบคำตอบว่าทำไมการมาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยที่เอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ ถึงต้องกลับมาซ้ำอีกหลายๆครั้ง

เมื่อนั่งโต๊ะเรียบร้อยพนักงานก็จะเริ่มเสิร์ฟขนมปังและเนย โดยขนมปังมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ‘บาแก็ต’ ขนมปังที่มีความกรอบนอกนุ่มใน ‘บริยอช’ ขนมปังเนื้อนุ่มหวานมีความเค็มเล็กน้อยจากการท็อปด้านบนด้วยซีซอลท์ และ ‘ขนมปังชาโคล์’ ขนมปังเนื้อนุ่มโรยหน้าด้วยเกร็ดขนมปัง เสิร์ฟให้ทานคู่กับเนยเค็มและ Smoked Miso Butter เนยสูตรซิกเนเจอร์ของเอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ

เซ็ตเมนูฤดูใบไม้ผลิ Spring Guestronomic Set Journey มีให้เลือก 3 เซ็ต ได้แก่ เซ็ตเมนู 4 คอร์ส Ku-Ki Experience ราคา 3,800++ บาทเซ็ตเมนู 6 คอร์ส Chikyu Experience ราคา 4,600++ บาท และเซ็ตเมนู 8 คอร์ส Mizu Experience ราคา 5,900++ บาท สำหรับวันนี้เราอยากชวนคุณมาลองเซ็ตเมนู 8 คอร์ส Mizu Experience ไปด้วยกัน

เริ่มต้นด้วย Amuse Bouche หนังไก่กรอบเสิร์ฟมาพร้อมกุ้งแม่น้ำสด และแป้งข้าวกรอบสอดไส้เม็ดสาคู แตงโม ไข่ปลาแซลมอน

MIZU

เมนูแรกของคอร์ส Mizu เริ่มต้นด้วย Chutoro เนื้อทูน่าส่วนท้องที่ไม่มีไขมัน เสิร์ฟมาพร้อมออยสเตอร์ครีม เนื้อออยสเตอร์ สาหร่ายฮิจิกิ ราดด้วยซอสดาชิ ซอสปลาแห้งญี่ปุ่นเข้มข้นที่ให้รสชาติสดชื่น มีกลิ่นหอม ชูความกลมกล่อมของเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี

อร่อยกันอย่างต่อเนื่องกับ Fruit de Mer เมนูอาหารทะเลสดที่เสิร์ฟในรูปแบบไฟน์ไดนิ่ง ทั้งกุ้งล็อปเตอร์ หอย เคียงคู่กับอโวคาโด สาหร่ายทะเล ไข่ปลาแซลมอน และซอสสูตรพิเศษ

ต่อกันด้วยเมนูล็อบสเตอร์จากประเทศฝรั่งเศส เนื้อแน่น กรอบ หวานฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมสมุนไพร และมะเขือเทศที่ช่วยยกระดับความหวานของเนื้อล็อบสเตอร์ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น เป็นเมนูที่รับประทานแล้วรู้สึกสดชื่นมาก

ปลาคอดจากนอร์เวย์ เสิร์ฟกับหน่อไม้ฝรั่งสีขาว คาเวียร์เวลูเต้ เนื้อปลานุ่มฉ่ำ เชฟเสิร์ฟด้วยการราดซอสที่โต๊ะ ทำให้เราได้เพลินกับกลิ่นหอมที่ลอยขึ้นมาอย่างนุ่มนวล รสชาติของซอสมีความหวาน มัน เค็มเล็กน้อย เพิ่มความละมุนให้กับเนื้อปลาคอดมากยิ่งขึ้น และเชฟยังเสิร์ฟหนังปลาทอดกรอบให้ทานคู่อีกด้วย

คาริฟูราวะ (Karifurawa) หรือกะหล่ำดอก ด้านล่างของจานประกอบด้วยกะหล่ำดอกผัดกับเนยกะหล่ำดอกเทมปุระกะหล่ำดอกพิคเคิล ท็อปด้วยบราวน์บัทเทอร์โฟม แบล็คทรัฟเฟิลจากฝรั่งเศส และกะหล่ำดอกทอดกรอบ เมื่อรับประทานทุกอย่างพร้อมกันในคำเดียว โฟมบราวน์บัทเทอร์ค่อยๆกระจายไปทั่วทั้งปาก ตามด้วยกลิ่นทรัฟเฟิล ผสมผสานรสชาติและสัมผัสของกะหล่ำดอกที่ปรุงในแบบต่างๆ หลากหลายมิติในทุกๆ คำที่รับประทาน

เมนูถัดมาเป็นฟัวกราส์ระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ชอง ลาโนดี (Jean Larnaudie ) จากประเทศฝรั่งเศส เชฟนำมาเซียร์จนหอมแล้วทาด้วยซอสส้มมาร์มาเลด ท็อปด้วยข้าวพองเกนไมฉะกลิ่นหอมอ่อนๆ เสิร์ฟคู่กับโมโม่หรือลูกพีชญี่ปุ่น แล้วเติมรสด้วยวาซาบิรีดักชันเป็นการนำวาซาบิไปเคี่ยวแล้วเติมน้ำผึ้งป่าลงไป เพิ่มสัมผัสของกลิ่นหอมอันเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ได้รสชาติญี่ปุ่นที่แปรเปลี่ยนเป็นอาหารฝรั่งเศส

เข้าสู่เมนคอร์ส เนื้อโอลีฟวากิว จากจังหวัดคาวากะ (Kagawa Olive A5 Wagyu) ที่ได้รับการขนานนามว่า “เนื้อวากิวที่หายากและแพงที่สุดในโลก” น้อยคนนักจะได้ลิ้มลอง เนื่องจากวัวเหล่านี้เพาะพันธุ์ได้จำนวนจำกัด มีการเพาะเลี้ยงด้วยมะกอกดำที่ส่งผลให้รสชาติอูมามิของเนื้อมีความเข้มข้นกว่าวากิวทั่วไป โอลีฟวากิวยังมีลายหินอ่อนที่ลึกซึ้งมีปริมาณไขมันที่ดีต่อสุขภาพสูง ดีแบบครบทุกมิติและคุณสามารถมาลิ้มลองได้ที่ห้องอาหาร เอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ พิเศษมากจริงๆ เชฟนำมาย่างเสิร์ฟกับมันฝรั่งตุ๋นในเนย หอมแดงบดราดด้วยซอสเนื้อ เนื้อนุ่มละลายในปากอย่างที่สุด เครื่องเคียงต่างช่วยเสริมรสชาติของโอลีฟวากิวได้เป็นอย่างดี

ล้างปากก่อนเข้าสู่คอร์สของหวานด้วย เมนูเบา ๆ ที่เชฟเจอราร์ดได้แรงบรรดาลใจจากชานมไข่มุก กระทั่งเชฟตั้งชื่อเมนูนี้ว่า Elements Bubble Tea ประกอบไปด้วย วุ้นว่านหางจระเข้ เบอร์รี่สดและเบอร์รี่พิคเคิล ท็อปด้วยเกล็ดน้ำแข็งกรานิต้าที่มีส่วนผสมของคอมบูชาและกระเจี๊ยบแดง ท็อปด้วยบัตเตอร์มิลค์โฟม

มาถึงเมนูของหวานสำหรับคอร์ส Mizu เชฟตั้งใจนำเสนอสตรอเบอร์รี่ญี่ปุ่น โดยเสิร์ฟมาในรูปแบบของแป้งเคลือบอัลมอนด์สอดไส้ด้วยสตรอเบอร์รี่ครีมโยเกิร์ต ท็อปด้วยบัตเตอร์มิลค์ไอศครีม และสตรอเบอร์รี่เยลลี่เพิ่มความฉ่ำด้วยด้วยซอสที่มีส่วนผสมของสตรอเบอร์รี่ มินท์และส้มยูสุ ให้ความสดชื่นรสชาติเปรี้ยวอมหวาน

ปิดท้ายมื้อค่ำสุดพิเศษด้วยเปอตีโฟร์หรือในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่าโอคาชิ ขนมหวานทานเล่นชิ้นเล็กๆ 4 อย่างไวท์ช็อคโกแล็ตผสมถั่วพิตาชิโอ้,ขนมไข่ฝรั่งเศสท็อปด้วยเจลเสาวรส, ขนมชูที่มีหน้าตาคล้ายขนมดอกจอกของไทย และเยลลี่คาราเมลเสิร์ฟมาบนขนมปังชาโคล์ท็อปด้วยซีซอลท์ วิธีการรับประทานให้เริ่มจาก ไวท์ช็อคโกแล็ตผสมถั่วพิตาชิโอ้ที่มีรสหวานเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องจากเมนูขนมหวานที่รับประทานไปก่อนหน้านี้ ตามด้วยขนมไข่ฝรั่งเศสท็อปด้วยเสาวรสเจลรสชาติเปรี้ยวหวาน ต่อด้วยขนมชูท็อปด้วยแบล็คเคอเรนท์พาวเดอร์ ให้ความกรุบกรอบ ตามด้วยเยลลี่คาราเมลเสิร์ฟมาบนขนมปังชาโคล์ท็อปด้วยซีซอลท์ ให้ความหวานมันเค็ม ปิดท้ายมื้ออาหารอย่างลงตัว

เมื่อรับประทานเสร็จพนักงานยังมีของฝากเป็นคอมบูชา (Kombucha) ขวดเล็กๆให้นำกลับไปทานที่บ้านอีกด้วย

เมนูของเชฟเจอราร์ด มีความโดดเด่นทางด้านความลงตัวของรสชาติจากทุกองค์ประกอบ ผสมผสานการบริการระดับมิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว พนักงานมีความเป็นกันเองอย่างสุภาพ ยิ้มแย้ม ทำให้การรับประทานอาหารมื้อค่ำมื้อนี้ลงตัวน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ถึงตาคุณแล้วที่จะมาลองสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวคุณเอง

ห้องอาหาร เอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ ตั้งอยู่ชั้น 25 ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok เปิดให้บริการวันพุธถึงวันอาทิตย์ เฉพาะมื้อค่ำ เวลา 18.00 – 22.30 น. โทร.02 687 9000 อีเมล [email protected]